ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ยื่นขอรัฐสภาให้อำนาจแก่เขาในการสู้รบกับกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) เป็นเวลา 3 ปี โดยจะยกเว้นการเข้าร่วมการสู้รบภาคพื้นดิน ทั้งนี้คาดกันว่าคองเกรสจะเร่งรัดพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังครอบครัวของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์หญิงอเมริกันเผยว่า ได้รับหลักฐานยืนยันว่าเธอผู้นี้เสียชีวิตแล้วตามที่พวกนักรบญิฮัดกลุ่มนี้กล่าวอ้างไว้ ขณะเดียวกันศูนย์ต่อต้านก่อการร้ายแห่งชาติของอเมริการะบุว่า เวลานี้มีนักรบต่างชาติถึง 20,000 คนเดินทางหลั่งไหลไปช่วยไอเอสในซีเรีย และอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสซีไอเอเตือนว่าการที่ตะวันตกถอนกำลังจากอัฟกานิสถาน จะทำให้ดินแดนดังกล่าวกลายเป็นที่พักพิงชั้นดีของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง
สืบเนื่องจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า โอบามา ละเมิดอำนาจตามรัฐธรรมนูญ จากการนำกองทัพอากาศสหรัฐ เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอส นับจากวันที่ 8 สิงหาคมปีที่แล้ว โดยไม่เคยขออนุมัติจากรัฐสภา ถึงแม้ทำเนียบขาวโต้แย้งว่า ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯสามารถปฏิบัติการเช่นนี้ได้ โดยอาศัยอำนาจที่คองเกรสได้เคยอนุมัติก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วโอบามาก็ตัดสินใจที่จะยื่นขออำนาจใช้กำลังทหารในกรณีนี้อย่างเป็นทางการ
ข้อเสนอของโอบามาที่จะส่งให้รัฐสภาในวันพุธ (11 ก.พ.) จะอนุญาตให้ใช้กองทหารรบพิเศษและที่ปรึกษาเพื่อวัตถุประสงค์ในการต้านทานการโจมตี แต่ห้ามการเข้าร่วมการสู้รบภาคพื้นดินที่ยืดเยื้อยาวนาน โดยข้อเสนอนี้ครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี
ในอีกด้านหนึ่ง ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของสหรัฐฯ (NCTC) ได้จัดทำรายงานฉบับใหม่ซึ่งประมาณการว่า ขณะนี้มีนักรบต่างชาติจากกว่า 90 ประเทศหลั่งไหลไปร่วมรบกับไอเอสและกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ในซีเรีย รวมเป็นจำนวนกว่า 20,000 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวตะวันตกอย่างน้อย 3,400 คน และชาวอเมริกันกว่า 150 คน
นิโคลัส รามุสเซน ผู้อำนวยการ NCTC ระบุในเอกสารเตรียมการสำหรับการแถลงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ (11) ว่า จำนวนนักรบต่างชาติที่เดินทางไปซีเรียขณะนี้มากกว่าจำนวนที่ไปร่วมรบในปากีสถาน อิรัก เยเมน หรือโซมาเลียในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา
ราสมุสเซนสำทับว่า สนามรบในอิรักและซีเรียนำเสนอประสบการณ์การต่อสู้ การใช้อาวุธ และการฝึกทำระเบิด ซึ่งนักรบต่างชาติอาจนำมาใช้ในการวางแผนโจมตีเป้าหมายในประเทศตะวันตก
ผู้อำนวยการ NCTC แจงว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ไอเอสสามารถระดมอาสาสมัครใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้มีทักษะในการโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อสังคม
สืบเนื่องจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า โอบามา ละเมิดอำนาจตามรัฐธรรมนูญ จากการนำกองทัพอากาศสหรัฐ เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอส นับจากวันที่ 8 สิงหาคมปีที่แล้ว โดยไม่เคยขออนุมัติจากรัฐสภา ถึงแม้ทำเนียบขาวโต้แย้งว่า ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯสามารถปฏิบัติการเช่นนี้ได้ โดยอาศัยอำนาจที่คองเกรสได้เคยอนุมัติก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วโอบามาก็ตัดสินใจที่จะยื่นขออำนาจใช้กำลังทหารในกรณีนี้อย่างเป็นทางการ
ข้อเสนอของโอบามาที่จะส่งให้รัฐสภาในวันพุธ (11 ก.พ.) จะอนุญาตให้ใช้กองทหารรบพิเศษและที่ปรึกษาเพื่อวัตถุประสงค์ในการต้านทานการโจมตี แต่ห้ามการเข้าร่วมการสู้รบภาคพื้นดินที่ยืดเยื้อยาวนาน โดยข้อเสนอนี้ครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี
ในอีกด้านหนึ่ง ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของสหรัฐฯ (NCTC) ได้จัดทำรายงานฉบับใหม่ซึ่งประมาณการว่า ขณะนี้มีนักรบต่างชาติจากกว่า 90 ประเทศหลั่งไหลไปร่วมรบกับไอเอสและกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ในซีเรีย รวมเป็นจำนวนกว่า 20,000 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวตะวันตกอย่างน้อย 3,400 คน และชาวอเมริกันกว่า 150 คน
นิโคลัส รามุสเซน ผู้อำนวยการ NCTC ระบุในเอกสารเตรียมการสำหรับการแถลงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ (11) ว่า จำนวนนักรบต่างชาติที่เดินทางไปซีเรียขณะนี้มากกว่าจำนวนที่ไปร่วมรบในปากีสถาน อิรัก เยเมน หรือโซมาเลียในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา
ราสมุสเซนสำทับว่า สนามรบในอิรักและซีเรียนำเสนอประสบการณ์การต่อสู้ การใช้อาวุธ และการฝึกทำระเบิด ซึ่งนักรบต่างชาติอาจนำมาใช้ในการวางแผนโจมตีเป้าหมายในประเทศตะวันตก
ผู้อำนวยการ NCTC แจงว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ไอเอสสามารถระดมอาสาสมัครใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้มีทักษะในการโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อสังคม