นายสัตวแพทย์สุเมธ ทรัพย์ชูกุล นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสัตว์ปีก เปิดเผยว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก ในแต่ละปีมีการส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์มากกว่า 500,000 ตัน โดยมีตลาดหลักคือสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น คิดเป็นร้อยละ 80-90 ของการส่งออกเนื้อไก่ทั้งประเทศ ซึ่งทั้งสองตลาดนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยอาหารของผู้บริโภคในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกฎระเบียบที่ห้ามใช้ฮอร์โมนและสารปฏิชีวนะในการเลี้ยงไก่ และไทยยังถือเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่และปศุสัตว์รายใหญ่ใน AEC จึงทำให้หลายประเทศในกลุ่มนี้พยายามเรียนรู้และทำตามอย่างประเทศไทย ทั้งมาตรฐานการผลิต การป้องกันโรค และมาตรฐานการส่งออก
ทั้งนี้ สัตวแพทย์เป็นผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพสัตว์ปีก ที่ยืนหยัดในการแนะนำทั้งการเลี้ยง การจัดการ และการควบคุมโรคสัตว์ปีกแก่เจ้าของธุรกิจตามหลักวิชาการ เช่น การดูแล-การเฝ้าระวังสัตว์ป่วย การทำลายซากไก่ ตลอดจนสร้างความเข้าใจในการป้องกันโรคแก่ ผู้ประกอบการ ผู้คนในชุมชน ผู้นำชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องให้มีความสำนึกรับผิดชอบต่ออาชีพ และสังคมโดยรวมเพื่อให้เกษตรกรมีผลผลิตที่ดี มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค อย่างไรก็ตามยังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อไก่ ทั้งเรื่องกลัวว่าไก่จะใช้ฮอร์โมนเร่งโต กลัวสารปนเปื้อนที่มากับเนื้อไก่ กลัวโรคที่มากับไก่ กลัวอาหารแปรรูปจากเนื้อไก่ หรือแม้แต่กลัวว่าทานไก่แล้วจะทำให้ลูกเป็นสาวเร็วหรือทำให้หน้าอกใหญ่ โดยในทางปฏิบัติยังไม่เคยตรวจพบเนื้อไก่ที่มีการปนเปื้อนฮอร์โมนหรือสารปนเปื้อน เพราะในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ปีกมีมาตรฐานการเลี้ยงดูที่ดี
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่ไม่ใช้ฮอร์โมนในการเลี้ยงไก่ แต่ทั้งอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างก็สั่งระงับการใช้ฮอร์โมนมาเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว นับตั้งแต่ปี 1959 เป็นต้นมา ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าเนื้อไก่ของไทยมีมาตรฐานการผลิตระดับโลกและการป้องกันโรคที่ดี สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
ทั้งนี้ สัตวแพทย์เป็นผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพสัตว์ปีก ที่ยืนหยัดในการแนะนำทั้งการเลี้ยง การจัดการ และการควบคุมโรคสัตว์ปีกแก่เจ้าของธุรกิจตามหลักวิชาการ เช่น การดูแล-การเฝ้าระวังสัตว์ป่วย การทำลายซากไก่ ตลอดจนสร้างความเข้าใจในการป้องกันโรคแก่ ผู้ประกอบการ ผู้คนในชุมชน ผู้นำชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องให้มีความสำนึกรับผิดชอบต่ออาชีพ และสังคมโดยรวมเพื่อให้เกษตรกรมีผลผลิตที่ดี มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค อย่างไรก็ตามยังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อไก่ ทั้งเรื่องกลัวว่าไก่จะใช้ฮอร์โมนเร่งโต กลัวสารปนเปื้อนที่มากับเนื้อไก่ กลัวโรคที่มากับไก่ กลัวอาหารแปรรูปจากเนื้อไก่ หรือแม้แต่กลัวว่าทานไก่แล้วจะทำให้ลูกเป็นสาวเร็วหรือทำให้หน้าอกใหญ่ โดยในทางปฏิบัติยังไม่เคยตรวจพบเนื้อไก่ที่มีการปนเปื้อนฮอร์โมนหรือสารปนเปื้อน เพราะในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ปีกมีมาตรฐานการเลี้ยงดูที่ดี
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่ไม่ใช้ฮอร์โมนในการเลี้ยงไก่ แต่ทั้งอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างก็สั่งระงับการใช้ฮอร์โมนมาเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว นับตั้งแต่ปี 1959 เป็นต้นมา ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าเนื้อไก่ของไทยมีมาตรฐานการผลิตระดับโลกและการป้องกันโรคที่ดี สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยแน่นอน