นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 3/2558 ว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบกรอบและโครงสร้างการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ โดยให้นำหลักการทั้ง 5 ข้อ มาพิจารณาในการกำหนดบทบาท ประกอบด้วย การแยกบทบาทการกำกับดูแลออกจากรัฐวิสาหกิจ การเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมเป็นผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมการแข่งขัน การบูรณาการระหว่างแผนงานโครงการก่อสร้าง การพิจารณาวัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์ที่ควรให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการ และการนำทรัพย์สินที่มีอยู่มาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติเห็นชอบปรับปรุงอัตราค่าจ้างลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีการปรับเพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำให้กับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ จากเดิม 5,780 บาท จะปรับให้มีอัตราเงินเดือนขั้นต่ำ สูงสุดอยู่ที่ 9,070 บาท
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติให้กระทรวงคมนาคม เร่งสร้างความชัดเจนระหว่างบทบาทของกรมราง และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในการก่อสร้างและบำรุงรักษาทางรถไฟ รวมทั้งจัดทำแนวทางในการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ขณะที่ในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มีมติให้ ขสมก.ดำเนินงานในฐานะผู้ประกอบการเท่านั้น และให้กรมการขนส่งทางบก กำกับดูแลผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะแทน
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติเห็นชอบปรับปรุงอัตราค่าจ้างลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีการปรับเพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำให้กับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ จากเดิม 5,780 บาท จะปรับให้มีอัตราเงินเดือนขั้นต่ำ สูงสุดอยู่ที่ 9,070 บาท
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติให้กระทรวงคมนาคม เร่งสร้างความชัดเจนระหว่างบทบาทของกรมราง และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในการก่อสร้างและบำรุงรักษาทางรถไฟ รวมทั้งจัดทำแนวทางในการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ขณะที่ในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มีมติให้ ขสมก.ดำเนินงานในฐานะผู้ประกอบการเท่านั้น และให้กรมการขนส่งทางบก กำกับดูแลผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะแทน