จากกรณีพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ลาสิขาบทกลายเป็นนายเกษม ดวงแพงมาต นุ่งขาวห่มขาว หลังเกิดกรณีเรื่องเสพเมถุนกับหนุ่มใหญ่ลูกศิษย์ใกล้ชิด แต่ภายหลังเหล่าศิษย์ที่เคารพนับถือได้ขอให้นายเกษมอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์เช่นเดิม ขณะที่เดียวกันได้มีการแต่งตั้ง “พระวสันต์ ปัญญาภรโณ” ให้รักษาการเจ้าสำนักฯ แทน อดีตพระเกษมเพื่อความสงบเรียบร้อย หลังจากเกิดกระแสข่าว สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลกเตรียมดำเนินคดีพ.ร.บ.ป่าไม้ หลังพบเอกสารซื้อที่ดิน ในเขตป่าสงวนฯ สร้างสนามบินเฮลิคอปเตอร์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวัน 21 ม.ค. ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ได้มีชาวบ้านทั้งใน และนอกพื้นที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมกันอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ขณะที่นายเกษมแต่งกายนุ่งขาวห่มขาว เป็นตาผ้าขาวเดินออกมาที่โรงทานด้านนอก เมื่อลูกศิษย์เห็นต่างพร้อมใจกันนั่งคุกเข่าลงที่พื้น พร้อมพนมมือกราบไหว้ รับฟังคำสั่งสอนเช่นเดิม โดยทุกคนระบุว่านับถือเป็นครูบาอาจารย์ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ทั้งนี้นายเกษม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้เข้ามามีบทบาทหน้าที่ในการรับผิดชอบส่วนของสำนักที่พักสงฆ์อีกแล้ว จะเป็นก็เพียงที่ปรึกษาในเรื่องปัญหาที่แก้ได้ยากเท่านั้น ในส่วนทางสำนักพุทธฯ ที่จะเข้ามาตรวจสอบก็ได้ยินแค่ว่าจะส่งหนังสือไปหาพระอุปัชฌาย์ และแจ้งกลับมาที่นี่ ไม่ให้กลับไปบวชเป็นพระภิกษุอีก
นายเกษม กล่าวต่ออีกว่า ในกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการจัดพื้นที่เพื่อแบ่งล็อกขายต่อนั้น ความเป็นจริงมีแค่มาซื้อกันแล้วก็แบ่งเป็นที่ ๆ เพื่อที่จะให้ นาย ก. นาย ข. นาย ค. หรือ นาย ง. โดยไม่ได้มีการขายต่อที่มีผลกำไร แต่ลูกศิษย์มาอยู่ที่นี่ในระบบเห็นใจกัน คนมีเงินมาซื้อที่ในส่วนของคนไม่มี ก็มาแบ่งอยู่ในพื้นที่ของคนซื้อนั้น เพื่อขออยู่แล้วก็ศึกษาเรียนหลักธรรมพระไตรปิฎก แต่การซื้อขายที่ดินนั้น ได้อยู่นอกพื้นที่ออกไป ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ 3,000 ไร่ โดยที่พื้นที่ 3,000 ไร่นั้น ตนได้ขอมอบคืนให้กรมป่าไม้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเนื้อที่ 100 ไร่นี้ ได้ล็อกตายตัวว่า เป็นพื้นที่อาศัย และเป็นที่พักของสงฆ์
ในส่วนของเรื่องให้เพิกถอนใบอนุญาตสำนักสงฆ์สามแยก หรือให้รื้อถอนสำนักสงฆ์ ตามโครงการอนุรักษ์และพื้นฟูป่าไม้ การที่จะเข้ามาขอคืนพื้นที่สำนักสงฆ์นั้น ก็มีความยินดีให้เข้ามาขอคืนได้ และก็ทำหลักฐานมาให้ชัดเจน แต่ขอถามย้อนไปว่า ทำไมไม่ให้อยู่แล้ว ปล่อยให้สร้างสำนักสงฆ์มาได้ 20 ปี
"เตือนหน่อยนะว่า ฝ่ายเรามีสิทธิ์ ทำตามคดีความได้ทุกประการ เป็นตาผ้าขาว ก็ไม่ใช่ว่า เป็นตาผ้าขาวแล้วจะทำคดีไม่ได้ ในวินัยไม่มีห้าม เพราะฉะนั้นถ้าไม่ให้อยู่แล้ว ทำไมเจ้าหน้าที่จึงปล่อยให้สร้างสำนักที่พักสงฆ์อยู่มาได้ตั้ง 20 ปี หมายใจให้เราสร้างแล้วมาเอา หรือ ให้เราหมดเงินไปตั้ง 150 ล้านบาท แล้วจะขอคืน ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องนำเงินจำนวน 100 ล้านบาท มาจ่ายให้เรา และลูกศิษย์ยินดีจะย้ายไปที่อื่น ถ้าไม่ให้ก็ต้องต่อสู้กันทางกฎหมาย เรื่องนี้มีการลงทุน ลงหลักปักฐานจากภูเขาโล้น ๆ มาเป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์ ก่อนหน้านั้นได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เข้ามาร่วมด้วย และยังส่งเสริมให้ทำป่าไม้ร่วมมือกันอีกต่างหาก" นายเกษม กล่าว ด้วยน้ำเสียงดุดัน
ภายหลังให้สัมภาษณ์แล้วนายเกษมได้ประกาศต่อหน้าลูกศิษย์ด้วยเสียงดังว่า "การรักษาศีล 8 นั้นจะต่างจากการรักษาศีล 10 และ 227 ข้อ คือ ศีล 10 ต้องประจานตัวต่อหน้าภิกษุ ส่วนศีล 8 หากผิดพลาดสามารถสมาทานด้วยตนเองได้ ฉะนั้น “เราขอประกาศรักษาศีล 8 นับจากบัดนี้เป็นต้นไป" ก่อนที่จะมีลูกศิษย์เดินกางร่มกันแดด พาไปขึ้นรถยนต์ที่ขับมารอรับกลับไปที่พัก
ความคืบหน้า เมื่อวัน 21 ม.ค. ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ได้มีชาวบ้านทั้งใน และนอกพื้นที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมกันอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ขณะที่นายเกษมแต่งกายนุ่งขาวห่มขาว เป็นตาผ้าขาวเดินออกมาที่โรงทานด้านนอก เมื่อลูกศิษย์เห็นต่างพร้อมใจกันนั่งคุกเข่าลงที่พื้น พร้อมพนมมือกราบไหว้ รับฟังคำสั่งสอนเช่นเดิม โดยทุกคนระบุว่านับถือเป็นครูบาอาจารย์ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ทั้งนี้นายเกษม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้เข้ามามีบทบาทหน้าที่ในการรับผิดชอบส่วนของสำนักที่พักสงฆ์อีกแล้ว จะเป็นก็เพียงที่ปรึกษาในเรื่องปัญหาที่แก้ได้ยากเท่านั้น ในส่วนทางสำนักพุทธฯ ที่จะเข้ามาตรวจสอบก็ได้ยินแค่ว่าจะส่งหนังสือไปหาพระอุปัชฌาย์ และแจ้งกลับมาที่นี่ ไม่ให้กลับไปบวชเป็นพระภิกษุอีก
นายเกษม กล่าวต่ออีกว่า ในกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการจัดพื้นที่เพื่อแบ่งล็อกขายต่อนั้น ความเป็นจริงมีแค่มาซื้อกันแล้วก็แบ่งเป็นที่ ๆ เพื่อที่จะให้ นาย ก. นาย ข. นาย ค. หรือ นาย ง. โดยไม่ได้มีการขายต่อที่มีผลกำไร แต่ลูกศิษย์มาอยู่ที่นี่ในระบบเห็นใจกัน คนมีเงินมาซื้อที่ในส่วนของคนไม่มี ก็มาแบ่งอยู่ในพื้นที่ของคนซื้อนั้น เพื่อขออยู่แล้วก็ศึกษาเรียนหลักธรรมพระไตรปิฎก แต่การซื้อขายที่ดินนั้น ได้อยู่นอกพื้นที่ออกไป ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ 3,000 ไร่ โดยที่พื้นที่ 3,000 ไร่นั้น ตนได้ขอมอบคืนให้กรมป่าไม้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเนื้อที่ 100 ไร่นี้ ได้ล็อกตายตัวว่า เป็นพื้นที่อาศัย และเป็นที่พักของสงฆ์
ในส่วนของเรื่องให้เพิกถอนใบอนุญาตสำนักสงฆ์สามแยก หรือให้รื้อถอนสำนักสงฆ์ ตามโครงการอนุรักษ์และพื้นฟูป่าไม้ การที่จะเข้ามาขอคืนพื้นที่สำนักสงฆ์นั้น ก็มีความยินดีให้เข้ามาขอคืนได้ และก็ทำหลักฐานมาให้ชัดเจน แต่ขอถามย้อนไปว่า ทำไมไม่ให้อยู่แล้ว ปล่อยให้สร้างสำนักสงฆ์มาได้ 20 ปี
"เตือนหน่อยนะว่า ฝ่ายเรามีสิทธิ์ ทำตามคดีความได้ทุกประการ เป็นตาผ้าขาว ก็ไม่ใช่ว่า เป็นตาผ้าขาวแล้วจะทำคดีไม่ได้ ในวินัยไม่มีห้าม เพราะฉะนั้นถ้าไม่ให้อยู่แล้ว ทำไมเจ้าหน้าที่จึงปล่อยให้สร้างสำนักที่พักสงฆ์อยู่มาได้ตั้ง 20 ปี หมายใจให้เราสร้างแล้วมาเอา หรือ ให้เราหมดเงินไปตั้ง 150 ล้านบาท แล้วจะขอคืน ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องนำเงินจำนวน 100 ล้านบาท มาจ่ายให้เรา และลูกศิษย์ยินดีจะย้ายไปที่อื่น ถ้าไม่ให้ก็ต้องต่อสู้กันทางกฎหมาย เรื่องนี้มีการลงทุน ลงหลักปักฐานจากภูเขาโล้น ๆ มาเป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์ ก่อนหน้านั้นได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เข้ามาร่วมด้วย และยังส่งเสริมให้ทำป่าไม้ร่วมมือกันอีกต่างหาก" นายเกษม กล่าว ด้วยน้ำเสียงดุดัน
ภายหลังให้สัมภาษณ์แล้วนายเกษมได้ประกาศต่อหน้าลูกศิษย์ด้วยเสียงดังว่า "การรักษาศีล 8 นั้นจะต่างจากการรักษาศีล 10 และ 227 ข้อ คือ ศีล 10 ต้องประจานตัวต่อหน้าภิกษุ ส่วนศีล 8 หากผิดพลาดสามารถสมาทานด้วยตนเองได้ ฉะนั้น “เราขอประกาศรักษาศีล 8 นับจากบัดนี้เป็นต้นไป" ก่อนที่จะมีลูกศิษย์เดินกางร่มกันแดด พาไปขึ้นรถยนต์ที่ขับมารอรับกลับไปที่พัก