พิษณุโลก - ป่าไม้เมืองสองแควชงเรื่องแม่ทัพภาคที่ 3 ฟัน “สมีเกษม” หมิ่นศาสนา รุกป่า สร้างสนามบินเฮลิคอปเตอร์กลางป่าน้ำหนาว ห่างชายแดนแค่ 160 กม. ชี้กระทบความมั่นคง แถมสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดต่อเนื่องทั้งเรื่องยาเสพติด-การนำผู้กระทำผิดหนี
วันนี้ (26 ม.ค.) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ได้มีหนังสือด่วน เลขที่ ทส.1630.402/246 ถึงแม่ทัพภาคที่ 3 เรื่อง การดำเนินการตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ โดยอ้างถึงศูนย์ปฏิบัติการยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤติป่าไม้ของชาติที่ 2 (พิษณุโลก) ลับที่ ทส.0219(2) .1 / 150 ลงวันที่ 16 ส.ค. 57
กรณีที่พักสงฆ์ห้วยผึ้ง หรือที่พักสงฆ์ป่าสวมแยก หมู่ 6 ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำหนาว อยู่ในโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ตามมติ ครม.38 แต่มีปัญหาเรื่องคดีบุกรุกผืนป่าสงวนแห่งชาติตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14 บุกรุกแผ้วถาง ยึดถือครอบครองในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำหนาวนอกเหนือสำนักสงฆ์ฯ ที่ยื่นขอร่วมโครงการ
กล่าวคือ 21 ส.ค.57 ป่าไม้สำนัก 4 หน่วยป้องกันและรักษาป่า พช.5 (นาพอสอง) และทหาร พล.ม.1 เข้าตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหา 1 คน ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฐานครอบครองผืนป่า เพื่อสร้างสนามบิน ฮ. บริเวณหมู่ 6 ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เนื้อที่ 1-1-44 ไร่ ครั้งนั้นชุดจับกุมได้แจ้งจับนายธรรมรัตน์ ถวิล ลูกศิษย์พระเกษม อาจิณฺณสีโล (ขณะนั้น) หรือนายเกษม ดวงแพงมาต
ทั้งนี้ เนื่องจากนายธรรมรัตน์รับสมอ้างแทนนายเกษมว่าเป็นผู้สร้างสนามบินขึ้นลง ขณะที่นายเกษมบอกเพียงเป็นเจ้าของที่ดินตามใบซื้อขาย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมได้เนื่องจากต้องการตรวจสอบการได้มาของที่ดินก่อน กระทั่งพบว่าผิดกฎหมาย มีใบซื้อขายที่ดิน ใบ ภบท.5 ยืนยันลายมือชื่อ พระเกษม อาจิณณสีโล เป็นผู้ซื้อที่ดินต่อจากนายหิน คำมา เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 53 ในราคา 1.2 ล้านบาท
สำนักฯ ขอเรียนว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่กลางป่าน้ำหนาว ใกล้แนวชายแดน ห่างจากประเทศลาวประมาณ 160 กิโลเมตร และพื้นที่ดังกล่าวเป็นสนามรบมาก่อน สนามบินสร้างขึ้นสำหรับขึ้นลง ฮ. หากผู้ใดใช้กระทำความผิดฐานลำเลียงยาเสพติดก็จะทำได้ง่าย หรือนำผู้กระทำผิดสำคัญหลบหนี อาจกระทบต่อความมั่นคง
ทางสำนักฯ จึงไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของ อดีตพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าอาวาสที่พักสงฆ์ห้วยผึ้ง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ที่ทั้งหมิ่นศาสนา บุกรุกป่า และไม่ยอมลาสิกขาบทโดยง่าย จึงขอนำเรียนแม่ทัพภาคที่ 3 พิจารณาดำเนินการสั่งให้ผู้หนึ่งผู้ใดออกจากป่าสงวนฯ หรืองดเว้นการกระทำใดๆ, สั่งเป็นหนังสือให้ผู้กระทำความผิดรื้อถอน แก้ไข หรือทำสิ่งใดที่เป็นอันเสื่อมเสียต่อ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ภายในเวลาที่กำหนด
พร้อมให้ยึด ทำลาย รื้อถอน แก้ไขหรือทำประการอื่น เมื่อผู้กระทำความผิดไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 ไม่ปรากฏตัวผู้กระทำผิดหรือรู้ตัวผู้กระทำผิดแต่หาตัวไม่พบ, ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่เห็นสมควร เพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายแก่ป่าสงวนแห่งชาติในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน
ทั้งนี้ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลกพิจารณาแล้ว คดีนี้เป็นคดีใหญ่เป็นการบุกรุกเพื่อสร้างสนามบินขึ้น-ลงเฮลิคอปเตอร์ และไม่ได้สร้างเพื่อความมั่นคงที่ใช้ในราชการ ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานราชการใดๆ
