นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ คตช.ว่า เตรียมตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และผู้สังเกตการณ์ภาคเอกชน เพื่อตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ในภาครัฐ และจะใช้วิธีการ 4 ป. คือ ป้องปราม ปลูกจิตสำนึก ปราบปราม และประชาสัมพันธ์ เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต และต่อจากนี้ไปการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแต่ละครั้ง จะต้องทำข้อตกลงคุณธรรม หรือที่เรียกว่า สัญญาสุภาพบุรุษเพิ่มอีก 1 ฉบับ ควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันความโปร่งใสในทุกขั้นตอน และทำให้ประชาชนรับทราบข้อมูลมากขึ้น ทั้งการตั้งราคากลาง การจัดประมูล และการดำเนินการต่างๆ ระหว่างผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่รัฐ
ทั้งนี้ จะแต่งตั้งผู้สังเกตการณ์ที่มีคุณธรรม มีความรู้มาร่วมตรวจสอบในแต่ละโครงการ และหากพบโครงการใดส่อไปในทางทุจริตจะแจ้งให้สาธารณชนรับทราบ และส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเอาผิดต่อ โดยจะเริ่มนำร่องใช้ข้อตกลงคุณธรรมนี้ ในโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในวันอังคารหน้า
ขณะเดียวกัน กรมบัญชีกลางเตรียมแก้ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง และระเบียบราชพัสดุ เพื่อร่างเป็น พ.ร.บ.เพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดต่อไป
ทั้งนี้ จะแต่งตั้งผู้สังเกตการณ์ที่มีคุณธรรม มีความรู้มาร่วมตรวจสอบในแต่ละโครงการ และหากพบโครงการใดส่อไปในทางทุจริตจะแจ้งให้สาธารณชนรับทราบ และส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเอาผิดต่อ โดยจะเริ่มนำร่องใช้ข้อตกลงคุณธรรมนี้ ในโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในวันอังคารหน้า
ขณะเดียวกัน กรมบัญชีกลางเตรียมแก้ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง และระเบียบราชพัสดุ เพื่อร่างเป็น พ.ร.บ.เพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดต่อไป