น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลของตนทำให้ประเทศไทยเสียแชมป์ข้าวโลก ว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง เพราะการระบายข้าวสารดำเนินการระบายตามราคาตลาดโลก ไม่ได้อ้างอิงราคาข้าวเปลือก จึงไม่เกี่ยวกับโครงการรรับจำนำข้าว แต่เป็นผลจากการทุ่มตลาดของต่างประเทศในเวลาดังกล่าว ข้อพิสูจน์คือ ปี 2557 ไทยกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวอีกครั้ง ซึ่งเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวทั้งสิ้น
ส่วนข้อกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตทุกขั้นตอนในโครงการรับจำนำข้าวนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอปฏิเสธและขอโต้แย้งว่า การปล่อยให้มีการทุจริตหรือละเลยไม่ระงับยับยั้งความเสียหาย เป็นข้อกล่าวหาที่มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง เพราะในการบริหารราชการแผ่นดินได้กำชับไม่ให้มีการทุจริตอย่างเข้มงวด และมีการประชุมในการเปิดโครงการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ตนและคณะรัฐมนตรีไม่ได้ละเลยต่อข้อแนะนำของ ป.ป.ช.และ สตง.โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา และได้ให้ติดต่อประสานงานกับ ป.ป.ช.รวมทั้งยังให้เข้มงวดในอีกหลายๆ โครงการ
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ได้มีกลไกการทำงานในทุกระดับไม่ละเลยที่จะมีกลไกในการป้องกันการทุจริตและความเสียหายในทุกขั้นตอน
ส่วนข้อกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตทุกขั้นตอนในโครงการรับจำนำข้าวนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอปฏิเสธและขอโต้แย้งว่า การปล่อยให้มีการทุจริตหรือละเลยไม่ระงับยับยั้งความเสียหาย เป็นข้อกล่าวหาที่มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง เพราะในการบริหารราชการแผ่นดินได้กำชับไม่ให้มีการทุจริตอย่างเข้มงวด และมีการประชุมในการเปิดโครงการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ตนและคณะรัฐมนตรีไม่ได้ละเลยต่อข้อแนะนำของ ป.ป.ช.และ สตง.โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา และได้ให้ติดต่อประสานงานกับ ป.ป.ช.รวมทั้งยังให้เข้มงวดในอีกหลายๆ โครงการ
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ได้มีกลไกการทำงานในทุกระดับไม่ละเลยที่จะมีกลไกในการป้องกันการทุจริตและความเสียหายในทุกขั้นตอน