นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการตั๋วร่วมว่า เป็นการประชุมเพื่อทบทวนข้อมูล และความคืบหน้าของการดำเนินงานเกี่ยวกับตั๋วร่วม ซึ่งขณะนี้ทางสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)ได้บริษัทที่ปรึกษาในการออกแบบระบบแล้ว โดยมีกรอบระยะเวลาในการทำงาน 18 เดือน และเตรียมจัดตั้งหน่วยงาน เพื่อบริหารจัดการดำเนินการในระบบตั๋วร่วมรวมถึงเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการระดับนโยบาย และจะมีการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อพิจารณา เนื่องจากมีการเชื่อมกันทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งประกอบด้วย 1.คณะกรรมการระดับชาติ 2. สำนักงานพัฒนาระบบตั๋วร่วม 3. ระบบศูนย์บริหารจัดารรายได้กลาง (Clearing House) โดยจะมีการประมวลเรื่องดังกล่าวเข้าสู่คณะรัฐมนตรี
สำหรับการจัดหน่วยงานบริหารจัดการ และบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม และศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Common Ticket Company : CTC) หากมีเอกชนเข้าร่วมดำเนินการจะเกิดความคล่องตัว ในปีหน้าก็จะมีการตั้ง BU ของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการรองรับไปก่อนในช่วงที่เอกชนยังไม่ได้เข้ามาร่วมดำเนินการบริหารจัดการตั๋วร่วม แต่ในคณะทำงานที่จะมาดูแลในเรื่องของ BU ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวมถึงกรมทางหลวง โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อพิจารณาในแต่ล่ะส่วนงานเช่นกฎหมาย อำนาจหน้าที่ รวมถึงการตัดสินใจในการดำเนินงาน ก่อนที่จะทำการเสนอคณะรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน 2558 จะสามารถใช้บริการบัตรระบบ M Pass ของกรมทางหลวง สำหรับใช้บริการมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง และในเดือนมิถุนายน 2559 บัตรระบบ M Pass และบัตรระบบ Easy Pass จะสามารถใช้ร่วมกันได้ในบัตรเดียว ซึ่งหากมีบัตรชนิดใดใน 2 บัตรดังกล่าวก็สามารถใช้บริการต่อได้เลยตามปกติ
ขณะที่ ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ที่ปรึกษาระบบตั๋วร่วม เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2559 คาดว่าระบบตั๋วร่วมจะสามารถดำเนินการได้โดยมี BTS MRT Airport Link และภายในสิ้นปี 2559 จะสามารถใช้ระบบตั๋วร่วมกับ มอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงและทางด่วน รวมถึงรถเมล์ ขสมก.ได้ ขณะที่ร้านสะดวกซื้อจะต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ ส่วนในเรื่องของค่าแรกเข้าจะต้องหาข้อสรุปให้มีความชัดเจนก่อนที่จะทำการเปิดให้บริการ ซึ่งในหลักการค่าแรกเข้าจะต้องแบ่งรายได้ในส่วนนี้ร่วมกัน โดยจะเริ่มตั้งแต่การเปิดให้บริการในระยะแรก
สำหรับการจัดหน่วยงานบริหารจัดการ และบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม และศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Common Ticket Company : CTC) หากมีเอกชนเข้าร่วมดำเนินการจะเกิดความคล่องตัว ในปีหน้าก็จะมีการตั้ง BU ของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการรองรับไปก่อนในช่วงที่เอกชนยังไม่ได้เข้ามาร่วมดำเนินการบริหารจัดการตั๋วร่วม แต่ในคณะทำงานที่จะมาดูแลในเรื่องของ BU ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวมถึงกรมทางหลวง โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อพิจารณาในแต่ล่ะส่วนงานเช่นกฎหมาย อำนาจหน้าที่ รวมถึงการตัดสินใจในการดำเนินงาน ก่อนที่จะทำการเสนอคณะรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน 2558 จะสามารถใช้บริการบัตรระบบ M Pass ของกรมทางหลวง สำหรับใช้บริการมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง และในเดือนมิถุนายน 2559 บัตรระบบ M Pass และบัตรระบบ Easy Pass จะสามารถใช้ร่วมกันได้ในบัตรเดียว ซึ่งหากมีบัตรชนิดใดใน 2 บัตรดังกล่าวก็สามารถใช้บริการต่อได้เลยตามปกติ
ขณะที่ ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ที่ปรึกษาระบบตั๋วร่วม เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2559 คาดว่าระบบตั๋วร่วมจะสามารถดำเนินการได้โดยมี BTS MRT Airport Link และภายในสิ้นปี 2559 จะสามารถใช้ระบบตั๋วร่วมกับ มอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงและทางด่วน รวมถึงรถเมล์ ขสมก.ได้ ขณะที่ร้านสะดวกซื้อจะต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ ส่วนในเรื่องของค่าแรกเข้าจะต้องหาข้อสรุปให้มีความชัดเจนก่อนที่จะทำการเปิดให้บริการ ซึ่งในหลักการค่าแรกเข้าจะต้องแบ่งรายได้ในส่วนนี้ร่วมกัน โดยจะเริ่มตั้งแต่การเปิดให้บริการในระยะแรก