ศ.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาได้อนุมัติเพิ่มเติมสาขาวิชาที่ขาดแคลนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้สามารถเป็นครูได้ จำนวน 12 สาขาวิชา อาทิ นิติศาสตร์ อาหารและโภชนาการโภชนาการชุมชน การโรงแรม การโรงแรมและบริการ ธุรกิจโรงแรม เทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร และช่างเครื่องเรือนและตกแต่ง เนื่องจากเป็นสาขาที่คณะครุศาสตร์และคณะศึกษาศาสตร์ไม่ได้เปิดสอน รวมแล้ว สอศ.จึงมีสาขาวิชาชีพที่ได้รับการประกาศทั้งสิ้น 98 สาขาวิชาชีพ
นอกจากนี้ ยังพิจารณาสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอมา 21 สาขาวิชา ก่อนอนุมัติเพิ่มเติม 10 สาขาวิชา อาทิ ภาษาสเปน ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด จิตวิทยาคลีนิค แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์ศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนที่เหลืออีก 11 สาขา ปกติคณะครุศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ได้เปิดสอนอยู่แล้ว และในแต่ละปีก็มีการผลิตครูในมีปริมาณที่มาก หากคุรุสภาประกาศให้เป็นสาขาวิชาที่ขาดแคลนจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่เข้ามาศึกษาหลักสูตรครู 5 ปี ดังนั้น สพฐ.ต้องชี้แจงเหตุผลอย่างละเอียดอีกครั้ง
ศ.ไพฑูรย์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบให้ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาทุกประเภทและทุกสาขาสามารถสมัครสอบเข้าเป็นครูได้ ขณะเดียวกันคุรุสภาได้ของบประมาณ จำนวน 5.3 ล้านบาท จากสำนักงบประมาณ เพื่อนำมาใช้เป็นทุนให้เด็กในโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เข้ามาเรียนหลักสูตรปริญญาบัณฑิต เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถสมัครสอบเป็นครูได้ทันที โดยปีแรกกำหนดผู้รับทุนไว้ จำนวน 180 คน
นอกจากนี้ ยังพิจารณาสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอมา 21 สาขาวิชา ก่อนอนุมัติเพิ่มเติม 10 สาขาวิชา อาทิ ภาษาสเปน ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด จิตวิทยาคลีนิค แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์ศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนที่เหลืออีก 11 สาขา ปกติคณะครุศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ได้เปิดสอนอยู่แล้ว และในแต่ละปีก็มีการผลิตครูในมีปริมาณที่มาก หากคุรุสภาประกาศให้เป็นสาขาวิชาที่ขาดแคลนจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่เข้ามาศึกษาหลักสูตรครู 5 ปี ดังนั้น สพฐ.ต้องชี้แจงเหตุผลอย่างละเอียดอีกครั้ง
ศ.ไพฑูรย์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบให้ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาทุกประเภทและทุกสาขาสามารถสมัครสอบเข้าเป็นครูได้ ขณะเดียวกันคุรุสภาได้ของบประมาณ จำนวน 5.3 ล้านบาท จากสำนักงบประมาณ เพื่อนำมาใช้เป็นทุนให้เด็กในโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เข้ามาเรียนหลักสูตรปริญญาบัณฑิต เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถสมัครสอบเป็นครูได้ทันที โดยปีแรกกำหนดผู้รับทุนไว้ จำนวน 180 คน
