ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ กลับฉุดให้ราคาทองคำปิดลบเป็นวันที่ 3 ในวันศุกร์(12ธ.ค.) เนื่องจากมันทำให้อุปสงค์โลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำลดน้อยลงไป โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,222.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดมีกำหนดการประชุมในวันอังคารและวันพุธที่จะถึงนี้ โดยจะมีการออกแถลงการณ์นโยบายการเงินในเวลา 14.00 น.ของวันพุธ (ตรงกับ 2.00 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาไทย) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะเปลี่ยนแปลงภาษาที่ใช้ในแถลงการณ์ โดยอาจจะมีการตัดคำว่า "considerable time" ซึ่งไม่ได้ระบุถึงเวลาที่ชัดเจนในการขึ้นดอกเบี้ย ออกไปจากแถลงการณ์
เฟดได้ยุติโครงการซื้อพันธบัตรไปเมื่อเดือนต.ค. ซึ่งเป็นกรุยทางสู่การขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549 โดยมีการคาดการณ์กันในวงกว้างว่าการขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2558
ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อทองคำ เนื่องจากถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าผลตอบแทนที่จะได้รับจากการฝากเงินมากกว่าการถือทองคำไว้ จึงเทขายทองคำ
ขณะเดียวกัน ราคาทองที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร ทำให้มีแรงขายทำกำไรเข้ามาในตลาด นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันจากช่วงเวลาใกล้สิ้นปี เนื่องจากนักลงทุนบางรายเริ่มลดกิจกรรมในตลาดก่อนช่วงเทศกาลวันหยุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำยังถูกกดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาเป็นบวก โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.ของทอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน แตะที่ 93.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี และดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด
นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาทองปรับตัวลง คือการร่วงลงของราคาน้ำมัน เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นได้ถ่วงความต้องการซื้อทองเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ความคาดหวังหรือความกังวลเรื่องเงินเฟ้อจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ โดยอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลให้มูลค่าของพันธบัตรและเงินสดลดลง แต่มูลค่าทองคำกลับสามารถต้านแรงกดดันเงินเฟ้อได้ ดังนั้นหากเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้ามหากอัตราเงินเฟ้อต่ำ หรือ เงินฝืด ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ที่อ่อนค่าช่วยพยุงราคาทองไม่ให้ปรับตัวลงมาก โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.3% แตะที่ 88.358
ทองคำซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์จึงทำให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดมีกำหนดการประชุมในวันอังคารและวันพุธที่จะถึงนี้ โดยจะมีการออกแถลงการณ์นโยบายการเงินในเวลา 14.00 น.ของวันพุธ (ตรงกับ 2.00 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาไทย) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะเปลี่ยนแปลงภาษาที่ใช้ในแถลงการณ์ โดยอาจจะมีการตัดคำว่า "considerable time" ซึ่งไม่ได้ระบุถึงเวลาที่ชัดเจนในการขึ้นดอกเบี้ย ออกไปจากแถลงการณ์
เฟดได้ยุติโครงการซื้อพันธบัตรไปเมื่อเดือนต.ค. ซึ่งเป็นกรุยทางสู่การขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549 โดยมีการคาดการณ์กันในวงกว้างว่าการขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2558
ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อทองคำ เนื่องจากถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าผลตอบแทนที่จะได้รับจากการฝากเงินมากกว่าการถือทองคำไว้ จึงเทขายทองคำ
ขณะเดียวกัน ราคาทองที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร ทำให้มีแรงขายทำกำไรเข้ามาในตลาด นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันจากช่วงเวลาใกล้สิ้นปี เนื่องจากนักลงทุนบางรายเริ่มลดกิจกรรมในตลาดก่อนช่วงเทศกาลวันหยุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำยังถูกกดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาเป็นบวก โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.ของทอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน แตะที่ 93.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี และดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด
นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาทองปรับตัวลง คือการร่วงลงของราคาน้ำมัน เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นได้ถ่วงความต้องการซื้อทองเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ความคาดหวังหรือความกังวลเรื่องเงินเฟ้อจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ โดยอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลให้มูลค่าของพันธบัตรและเงินสดลดลง แต่มูลค่าทองคำกลับสามารถต้านแรงกดดันเงินเฟ้อได้ ดังนั้นหากเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้ามหากอัตราเงินเฟ้อต่ำ หรือ เงินฝืด ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ที่อ่อนค่าช่วยพยุงราคาทองไม่ให้ปรับตัวลงมาก โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.3% แตะที่ 88.358
ทองคำซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์จึงทำให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ