ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(9ธ.ค.) ถูกกดดันจากแรงเทขายตามตลาดทุนเอเชียและยุโรป ก่อนปิดผสมผสาน ท่ามกลางข่าวจีนกระชับกฏปล่อยกู้เข้มงวดขึ้นและปัญหาไร้เสถียรภาพทางการเมืองในกรีซ
ดาวโจนส์ ลดลง 51.28 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,801.20 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.49 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,059.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 25.77 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,766.47 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเกือบทุกตลาดเมื่อวานนี้ นำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ที่ดิ่งลงกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร ภายหลังทางการจีนได้ออกมาชะลอความร้อนแรงของตลาดสินเชื่อ และตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 0.68% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินเยน
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.9%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2550 เนื่องจากการคาดการณ์สภาวะธุรกิจใน 6 เดือนข้างหน้าทะยานขึ้น และการคาดการณ์เกี่ยวกับยอดขายปรับตัวขึ้นเช่นกัน
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง นำโดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 0.6% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก นำโดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ทะยานขึ้นเกือบ 5%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน
ดาวโจนส์ ลดลง 51.28 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,801.20 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.49 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,059.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 25.77 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,766.47 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเกือบทุกตลาดเมื่อวานนี้ นำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ที่ดิ่งลงกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร ภายหลังทางการจีนได้ออกมาชะลอความร้อนแรงของตลาดสินเชื่อ และตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 0.68% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินเยน
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.9%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2550 เนื่องจากการคาดการณ์สภาวะธุรกิจใน 6 เดือนข้างหน้าทะยานขึ้น และการคาดการณ์เกี่ยวกับยอดขายปรับตัวขึ้นเช่นกัน
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง นำโดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 0.6% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก นำโดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ทะยานขึ้นเกือบ 5%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน