ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น 216.57 จุด หรือ 0.94% เปิดที่ 23,239.78 จุดในวันนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้น 382.00 จุด หรือ 2.63% แตะที่ 14,914.51 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นกลุ่มยานยนต์ กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายเช้านี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,822.84 จุด เพิ่มขึ้น 290.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,617.08 จุด เพิ่มขึ้น 104.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,918.84 จุด เพิ่มขึ้น 18.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,184.66 จุด เพิ่มขึ้น 16.93 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,790.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ทะยาน 1.3% สู่ระดับ 135.44 จุด เมื่อเวลา 9.15 น.ตามเวลาโตเกียว
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ภายหลังมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6
ดัชนีที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้ บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% โดย ข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าการสร้างงานอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนภาคก่อสร้างของสหรัฐในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(17ต.ค.) พุ่งขึ้นแรงในช่วงบ่ายของการซื้อขาย หลังรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ กลบความกังวลที่ว่าอุปสงค์อันอ่อนแอของโลกจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการเติบโตของอเมริกา
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันศุกร์(17ต.ค.) พุ่งขึ้นแรง 263.17 จุด หรือ +1.63 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 16,380.41 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 24 จุด หรือ +1.29 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,886.76 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 41.05 จุด หรือ+0.97 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,258.44 จุด
ตลาดหุ้นขานรับรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ อาทิมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งรายได้ไตรมาส 3 ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ ส่วนจีอีเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 สูงขึ้นกว่าคาดการณ์เช่นเดียวกัน
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดวันศุกร์ (17ต.ค.) ลดลง2.20ดอลลาร์ หรือ -0.18เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,239 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นักลงทุนชะลอการเข้าช้อนซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างทองคำหลังตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปิดเแดนบวกแรง นักลงทุนคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซ็นต์หลุยส์ คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจะเติบโตกว่า 3% ในปีหน้า
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 5เซนต์ หรือ+0.06 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 82.75 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ บาร์เรล จากรายงานข้อมูลสต๊อกพลังงานเบนซินสำรองของอเมริกา ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 86.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้น 382.00 จุด หรือ 2.63% แตะที่ 14,914.51 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นกลุ่มยานยนต์ กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายเช้านี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,822.84 จุด เพิ่มขึ้น 290.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,617.08 จุด เพิ่มขึ้น 104.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,918.84 จุด เพิ่มขึ้น 18.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,184.66 จุด เพิ่มขึ้น 16.93 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,790.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ทะยาน 1.3% สู่ระดับ 135.44 จุด เมื่อเวลา 9.15 น.ตามเวลาโตเกียว
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ภายหลังมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6
ดัชนีที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้ บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% โดย ข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าการสร้างงานอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนภาคก่อสร้างของสหรัฐในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(17ต.ค.) พุ่งขึ้นแรงในช่วงบ่ายของการซื้อขาย หลังรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ กลบความกังวลที่ว่าอุปสงค์อันอ่อนแอของโลกจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการเติบโตของอเมริกา
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันศุกร์(17ต.ค.) พุ่งขึ้นแรง 263.17 จุด หรือ +1.63 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 16,380.41 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 24 จุด หรือ +1.29 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,886.76 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 41.05 จุด หรือ+0.97 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,258.44 จุด
ตลาดหุ้นขานรับรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ อาทิมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งรายได้ไตรมาส 3 ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ ส่วนจีอีเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 สูงขึ้นกว่าคาดการณ์เช่นเดียวกัน
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดวันศุกร์ (17ต.ค.) ลดลง2.20ดอลลาร์ หรือ -0.18เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,239 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นักลงทุนชะลอการเข้าช้อนซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างทองคำหลังตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปิดเแดนบวกแรง นักลงทุนคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซ็นต์หลุยส์ คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจะเติบโตกว่า 3% ในปีหน้า
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 5เซนต์ หรือ+0.06 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 82.75 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ บาร์เรล จากรายงานข้อมูลสต๊อกพลังงานเบนซินสำรองของอเมริกา ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 86.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล