พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีรายชื่อข้าราชการตำรวจที่พนักงานสอบสวนเชิญตัวมาให้ปากคำคดีขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ผู้มีอิทธิพลและหลบหนีคำพิพากษาศาลจังหวัดปัตตานีคดีปลอมแปลงเอกสารตราประทับว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีตรวจกองบังคับการตำรวจน้ำรายใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนบ้าง แต่จนถึงขณะนี้มีเพียง พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผู้บังคับการตำรวจน้ำ เท่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ตำรวจรายอื่นๆ ที่พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวมาสอบปากคำยังถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีหลักฐานปรากฏชัดว่าผิดจริง
ส่วนการดำเนินคดีย้อนหลังกับอดีตนายตำรวจรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานตามที่ปรากฏ รวมถึงเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง การเปิดบ่อนการพนัน และการแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์จะต้องตรวจสอบทุกฝ่ายตามที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับไว้ให้ดำเนินการกรอบที่กฎหมายกำหนด
สำหรับการติดตามตัว พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รองผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ที่ไม่มารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชา เบื้องต้นพบว่า มีความเชื่อมโยงกับ พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ทั้งนี้ อยากให้ติดต่อเข้ามอบตัว แต่ถ้าไม่มาพบภายใน 15 วัน ถือว่าผิดวินัยและขาดราชการ รวมทั้งเกรงว่าจะได้รับอันตรายด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจรายอื่นๆ ที่พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวมาสอบปากคำยังถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีหลักฐานปรากฏชัดว่าผิดจริง
ส่วนการดำเนินคดีย้อนหลังกับอดีตนายตำรวจรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานตามที่ปรากฏ รวมถึงเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง การเปิดบ่อนการพนัน และการแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์จะต้องตรวจสอบทุกฝ่ายตามที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับไว้ให้ดำเนินการกรอบที่กฎหมายกำหนด
สำหรับการติดตามตัว พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รองผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ที่ไม่มารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชา เบื้องต้นพบว่า มีความเชื่อมโยงกับ พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ทั้งนี้ อยากให้ติดต่อเข้ามอบตัว แต่ถ้าไม่มาพบภายใน 15 วัน ถือว่าผิดวินัยและขาดราชการ รวมทั้งเกรงว่าจะได้รับอันตรายด้วย