ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาความเหมาะสม จัดทำแบบเบื้องต้น และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) สายสีเทา ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม 9-ท่าพระว่า การดำเนินโครงการระยะแรกจากวัชรพล-ทองหล่อ ระยะทาง 16.25 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2572 และมีผู้โดยสารกว่า 160,000 คน/เที่ยว/วัน ซึ่งอาจจะมีผู้โดยสารมากกว่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าหากมีระบบรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในจุดใดแล้ว จุดนั้นจะมีประชาชนย้ายมาอาศัยเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดีกทม. จะดำเนินการอย่างรอบคอบ รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ ชุมชน และหน่วยงานโดยรอบ จากนั้นจะสรุปผลความคิดเห็น และข้อโต้แย้งที่ได้มาใช้ในการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ขอยืนยันว่าในการดำเนินโครงการระยะแรกนี้จะไม่ให้มีการเวนคืนที่ดินอย่างแน่นอน สำหรับด้านงบประมาณขณะนี้กำลังศึกษาหลายทางเลือก และมีผู้ที่สนใจเข้ามาเสนอรายละเอียดบ้างแล้ว ซึ่งกทม. จะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด และจะรับผิดชอบทั้งโครงการเอง โดยไม่ขอสนับสนุนจากรัฐบาล และจะทำให้เกิดประโยชน์แก่ระบบรถไฟฟ้าทุกสายไม่ใช่การสนับสนุนสายใดสายหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาถูกกำหนดให้เป็นโครงข่ายขนส่งมวลชนสายรองเพื่อสนับสนุนการป้อนผู้โดยสารให้กับระบบขนส่งมวลชน ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีส้ม สายสีเขียว สายสีน้ำเงิน ระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) สาทร - ราชพฤกษ์ อีกทั้งยังมีศักยภาพในการสนับสนุนและเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (ARL) ได้ในอนาคตซึ่งจะส่งผลให้การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนเป็นไปอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการศึกษาภายใต้โครงการนี้ได้มีการคัดเลือกรูปแบบรถไฟฟ้าฯ ที่เหมาะสม คือ ระบบโมโนเรล เป็นทางเลือกที่มีศักยภาพสูงสุด เนื่องจากสามารถขับเคลื่อนความเร็วได้ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถก่อสร้างได้ง่าย รวมทั้งส่งผลกระทบด้านเสียงและทัศนียภาพน้อยกว่าทางเลือกอื่น โดยมีการกำหนดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเทาเป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร มีสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารจำนวน 31 แห่ง และคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารบนระบบสูงสุด (Maximum Line Load) ในปี พ.ศ. 2572 ประมาณ 11,800 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง
ในปัจจุบันนี้เมืองใหญ่ทั่วโลกมีระบบขนส่งมวลชนแบบรางและระบบไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องเดินทางไปประกอบอาชีพ ซึ่งเมื่อ 15 ปีที่แล้ว กทม. ก็ได้เริ่มดำเนินโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งเดินหน้าขยายเครือข่ายขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้า รถสาธารณะ และการขนส่งทางน้ำ จากระบบเล็กเพื่อส่งต่อไปยังระบบใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาจราจรและลดมลภาวะที่จะเกิดขึ้น ในปัจจุบันมีผู้ที่เดินทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครถึง 15-16 ล้านเที่ยวต่อวัน โดย 60% เป็นการเดินทางด้วยพาหนะส่วนตัวมีเพียง 40% เท่านั้นที่ใช้ระบบสาธารณะ ซึ่งไม่ว่ากทม. จะสร้างถนนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ก็คงไม่สามารถรองรับการเดินทางของชาวกรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างระบบขนส่งเล็กเพื่อป้อนสู่ระบบใหญ่ ดังนั้นกทม. จึงรับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทานี้ โดยจะดำเนินงานด้วยความรอบคอบ และระมัดระวัง และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน
อย่างไรก็ดีกทม. จะดำเนินการอย่างรอบคอบ รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ ชุมชน และหน่วยงานโดยรอบ จากนั้นจะสรุปผลความคิดเห็น และข้อโต้แย้งที่ได้มาใช้ในการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ขอยืนยันว่าในการดำเนินโครงการระยะแรกนี้จะไม่ให้มีการเวนคืนที่ดินอย่างแน่นอน สำหรับด้านงบประมาณขณะนี้กำลังศึกษาหลายทางเลือก และมีผู้ที่สนใจเข้ามาเสนอรายละเอียดบ้างแล้ว ซึ่งกทม. จะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด และจะรับผิดชอบทั้งโครงการเอง โดยไม่ขอสนับสนุนจากรัฐบาล และจะทำให้เกิดประโยชน์แก่ระบบรถไฟฟ้าทุกสายไม่ใช่การสนับสนุนสายใดสายหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาถูกกำหนดให้เป็นโครงข่ายขนส่งมวลชนสายรองเพื่อสนับสนุนการป้อนผู้โดยสารให้กับระบบขนส่งมวลชน ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีส้ม สายสีเขียว สายสีน้ำเงิน ระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) สาทร - ราชพฤกษ์ อีกทั้งยังมีศักยภาพในการสนับสนุนและเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (ARL) ได้ในอนาคตซึ่งจะส่งผลให้การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนเป็นไปอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการศึกษาภายใต้โครงการนี้ได้มีการคัดเลือกรูปแบบรถไฟฟ้าฯ ที่เหมาะสม คือ ระบบโมโนเรล เป็นทางเลือกที่มีศักยภาพสูงสุด เนื่องจากสามารถขับเคลื่อนความเร็วได้ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถก่อสร้างได้ง่าย รวมทั้งส่งผลกระทบด้านเสียงและทัศนียภาพน้อยกว่าทางเลือกอื่น โดยมีการกำหนดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเทาเป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร มีสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารจำนวน 31 แห่ง และคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารบนระบบสูงสุด (Maximum Line Load) ในปี พ.ศ. 2572 ประมาณ 11,800 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง
ในปัจจุบันนี้เมืองใหญ่ทั่วโลกมีระบบขนส่งมวลชนแบบรางและระบบไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องเดินทางไปประกอบอาชีพ ซึ่งเมื่อ 15 ปีที่แล้ว กทม. ก็ได้เริ่มดำเนินโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งเดินหน้าขยายเครือข่ายขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้า รถสาธารณะ และการขนส่งทางน้ำ จากระบบเล็กเพื่อส่งต่อไปยังระบบใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาจราจรและลดมลภาวะที่จะเกิดขึ้น ในปัจจุบันมีผู้ที่เดินทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครถึง 15-16 ล้านเที่ยวต่อวัน โดย 60% เป็นการเดินทางด้วยพาหนะส่วนตัวมีเพียง 40% เท่านั้นที่ใช้ระบบสาธารณะ ซึ่งไม่ว่ากทม. จะสร้างถนนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ก็คงไม่สามารถรองรับการเดินทางของชาวกรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างระบบขนส่งเล็กเพื่อป้อนสู่ระบบใหญ่ ดังนั้นกทม. จึงรับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทานี้ โดยจะดำเนินงานด้วยความรอบคอบ และระมัดระวัง และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน
