พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางการตรวจสัญชาติแรงงานเพื่อนบ้านทั้ง 3 สัญชาติ โดยให้กรมการจัดหางานตั้งศูนย์บริการตรวจลงตรา และพิจารณาอนุญาตทำงานของแรงงานพม่า ลาว และกัมพูชา และให้ยื่นแบบคำขออนุญาตคำขอทำงานผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งอนุญาตทำงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559
ส่วนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและการตรวจลงตราประทับวีซ่า 500 บาทต่อคน พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และให้กระทรวงการต่างประเทศ มอบอำนาจให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจตรวจลงตราแรงงานทั้ง 3 สัญชาติ รวมทั้งผู้ติดตาม ตั้งแต่วันที่อนุญาต จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 และหลังจากสิ้นสุดการลงทะเบียน วันที่ 31 ตุลาคมนี้ แรงงานเพื่อนบ้าน 3 สัญชาติ จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าว อีกทั้งแรงงานที่ได้รับอนุญาตทำงานแล้ว ให้สำนักงานประกันสังคมนำเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่แรงงานต่างด้าวที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคม ให้ซื้อบัตรประกันสุขภาพเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่อนผันการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีกับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสัญชาติ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558
ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในกิจการประมง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ที่เห็นชอบให้มีการจดทะเบียนปีละ 2 ครั้ง โดยรอบแรก ใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ 24 กันยายน 2557 และรอบสอง ใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ 2 มีนาคม 2558 ให้เข้าสู่กระบวนการตรวจสัญชาติ ซึ่งยอดการขึ้นทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้าน รวมทั้งสิ้น 1,489,264 คน
ส่วนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและการตรวจลงตราประทับวีซ่า 500 บาทต่อคน พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และให้กระทรวงการต่างประเทศ มอบอำนาจให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจตรวจลงตราแรงงานทั้ง 3 สัญชาติ รวมทั้งผู้ติดตาม ตั้งแต่วันที่อนุญาต จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 และหลังจากสิ้นสุดการลงทะเบียน วันที่ 31 ตุลาคมนี้ แรงงานเพื่อนบ้าน 3 สัญชาติ จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าว อีกทั้งแรงงานที่ได้รับอนุญาตทำงานแล้ว ให้สำนักงานประกันสังคมนำเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่แรงงานต่างด้าวที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคม ให้ซื้อบัตรประกันสุขภาพเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่อนผันการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีกับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสัญชาติ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558
ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในกิจการประมง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ที่เห็นชอบให้มีการจดทะเบียนปีละ 2 ครั้ง โดยรอบแรก ใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ 24 กันยายน 2557 และรอบสอง ใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ 2 มีนาคม 2558 ให้เข้าสู่กระบวนการตรวจสัญชาติ ซึ่งยอดการขึ้นทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้าน รวมทั้งสิ้น 1,489,264 คน