พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงแนวทางการตรวจสอบสลากฯ เกินราคาว่า ขณะนี้สำนักงานได้เพิ่มกำลังทีมตรวจสอบเป็น 8 ทีมตามจำนวนของผู้ตรวจที่มีอยู่ 8 คน จากเดิมมีอยู่ 3 ทีม โดยได้ขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารให้มาร่วมทีมตรวจสอบด้วย เนื่องจากต้องอาศัยอำนาจของตำรวจในการจับกุมผู้กระทำผิด และต้องอาศัยอำนาจทหารช่วยดูแลความปลอดภัยของทีมตรวจสอบด้วย ซึ่งทีมตรวจสอบของสลากจะเน้นตรวจสอบในส่วนกลางคือเขตกทม. โดยบริเวณที่จะตรวจสอบเป็นพิเศษ อาทิ สี่แยกคอกวัว บริเวณตลาดค้าสลากสนามบินน้ำ ส่วนในต่างจังหวัดได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยตั้งทีมตรวจสอบผู้แทนรายย่อยที่ได้รับการจัดสรรสลากฯ ผ่านทางจังหวัดว่ามีการขายสลากในราคาใบละ 90 บาทหรือไม่
ทั้งนี้สำนักงานสลากฯ มีการจับกุมผู้ค้าสลากที่ขายเกินราคามาโดยตลอด จากสถิติมีการจับกุมไปหลายหมื่นล้านราย เฉพาะแค่ปีงบ 2557 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 –กันยายน 2557 มีการจับกุมไปถึง 4,482 ราย ซึ่งมีทั้งผู้ค้ารายย่อยที่ซื้อต่อมา และผู้ที่ได้โควตาจากสำนักงานสลากโดยตรง
ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มาการตรวจพบและสงสัยว่าผู้ที่ได้รับโควตากว่า 22 ราย มีการขายสลากต่อไปให้ผู้ค้ารายใหญ่ 3 ราย ขณะนี้กำลังดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง เพราะผู้ที่รับซื้อสลากทั้ง 3 รายจาก 22 ราย อ้างว่าได้รับการฝากสลากไว้ ดังนั้นหลังจากนี้ต้องไปพิสูจน์ว่าความจริง เพื่อนำไปสู่การยึดโควตาดังกล่าวคืน
“การยึดโควตานั้นจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าผู้ได้โควตามีความผิดตามข้อกล่าวหา ไม่เช่นนั้นสำนักสลากฯจะถูกฟ้องกลับได้ ซึ่งในการพิสูจน์ว่ามีความผิดหรือไม่จะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน เพราะต้องเริ่มตั้งแต่ นำเลขสลากมาตรวจสอบว่าเป็นของผู้ค้ารายใด และต้องไปดูว่ามีการขายที่ไหน ขายเองหรือไม่ ซึ่งผู้ที่กระทำผิดส่วนใหญ่จะปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะไม่ต้องการให้ยึดโควตา”
พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าวว่า ในการตรวจสอบนั้นนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) ให้เน้นไปยังผู้ค้าที่ได้รับโควตาว่าควรจะต้องนำไปขายเองในราคาที่กำหนดไว้ 90 บาท ซึ่งตนก็หวังว่าการดำเนินการอย่างจริงจังและเข้มงวดขึ้นของสลากในช่วงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งให้ราคาสลากปรับลดลงได้
โดยสั่งให้ทีมตรวจสอบลงพื้นที่ทุกวัน ส่วนในต่างจังหวัดได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดให้ส่งทีมตรวจสอบราคาสลาก และการขายสลากในทุกวันเช่นกัน เมื่อทางจังหวัดตรวจพบให้ส่งข้อมูลมาที่สำนักงานสลาก เพื่อตรวจว่าเป็นของผู้ค้ารายได้ หรืออีกช่องทางคือสายด่วนของสำนักงานสลาก โทร023451466 ที่ผู้ซื้อสามารแจ้งเบาะแสการขายเกินราคามาให้ทราบได้
พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าวด้วย การแก้ปัญหาสลากเกินราคา เป็นหนึ่งใน 10 ตัวชี้วัดการทำงานของผู้อำนวยการสลาก ที่ได้เซ็นต์สัญญาไว้กับบอร์ด ซึ่งในส่วนตัวจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ และไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะก็ทราบมาก่อน โดยการประเมินผลงานจะมีขึ้นหลังจากมาทำงาน 6 เดือน ซึ่งตนมารับตำแหน่งได้ 2 เดือนแล้วตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม ดังนั้นขอทำงานในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปให้สุดแรง โดยมีความหวังว่าการเพิ่มจากเข้มข้นในการตรวจสอบ และเอาจริงในเรื่องการยึดโควตา โดยเฉพาะใน 22 รายที่เพิ่งตรวจพบเมือสัปดาห์ก่อนจะทำให้ผู้ค้าสลากปรับราคาขายลงมาให้เท่ากับราคาสลากหน้าตั๋วคือ 80 บาทต่อใบในไม่ช้านี้
ทั้งนี้สำนักงานสลากฯ มีการจับกุมผู้ค้าสลากที่ขายเกินราคามาโดยตลอด จากสถิติมีการจับกุมไปหลายหมื่นล้านราย เฉพาะแค่ปีงบ 2557 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 –กันยายน 2557 มีการจับกุมไปถึง 4,482 ราย ซึ่งมีทั้งผู้ค้ารายย่อยที่ซื้อต่อมา และผู้ที่ได้โควตาจากสำนักงานสลากโดยตรง
ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มาการตรวจพบและสงสัยว่าผู้ที่ได้รับโควตากว่า 22 ราย มีการขายสลากต่อไปให้ผู้ค้ารายใหญ่ 3 ราย ขณะนี้กำลังดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง เพราะผู้ที่รับซื้อสลากทั้ง 3 รายจาก 22 ราย อ้างว่าได้รับการฝากสลากไว้ ดังนั้นหลังจากนี้ต้องไปพิสูจน์ว่าความจริง เพื่อนำไปสู่การยึดโควตาดังกล่าวคืน
“การยึดโควตานั้นจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าผู้ได้โควตามีความผิดตามข้อกล่าวหา ไม่เช่นนั้นสำนักสลากฯจะถูกฟ้องกลับได้ ซึ่งในการพิสูจน์ว่ามีความผิดหรือไม่จะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน เพราะต้องเริ่มตั้งแต่ นำเลขสลากมาตรวจสอบว่าเป็นของผู้ค้ารายใด และต้องไปดูว่ามีการขายที่ไหน ขายเองหรือไม่ ซึ่งผู้ที่กระทำผิดส่วนใหญ่จะปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะไม่ต้องการให้ยึดโควตา”
พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าวว่า ในการตรวจสอบนั้นนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) ให้เน้นไปยังผู้ค้าที่ได้รับโควตาว่าควรจะต้องนำไปขายเองในราคาที่กำหนดไว้ 90 บาท ซึ่งตนก็หวังว่าการดำเนินการอย่างจริงจังและเข้มงวดขึ้นของสลากในช่วงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งให้ราคาสลากปรับลดลงได้
โดยสั่งให้ทีมตรวจสอบลงพื้นที่ทุกวัน ส่วนในต่างจังหวัดได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดให้ส่งทีมตรวจสอบราคาสลาก และการขายสลากในทุกวันเช่นกัน เมื่อทางจังหวัดตรวจพบให้ส่งข้อมูลมาที่สำนักงานสลาก เพื่อตรวจว่าเป็นของผู้ค้ารายได้ หรืออีกช่องทางคือสายด่วนของสำนักงานสลาก โทร023451466 ที่ผู้ซื้อสามารแจ้งเบาะแสการขายเกินราคามาให้ทราบได้
พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าวด้วย การแก้ปัญหาสลากเกินราคา เป็นหนึ่งใน 10 ตัวชี้วัดการทำงานของผู้อำนวยการสลาก ที่ได้เซ็นต์สัญญาไว้กับบอร์ด ซึ่งในส่วนตัวจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ และไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะก็ทราบมาก่อน โดยการประเมินผลงานจะมีขึ้นหลังจากมาทำงาน 6 เดือน ซึ่งตนมารับตำแหน่งได้ 2 เดือนแล้วตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม ดังนั้นขอทำงานในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปให้สุดแรง โดยมีความหวังว่าการเพิ่มจากเข้มข้นในการตรวจสอบ และเอาจริงในเรื่องการยึดโควตา โดยเฉพาะใน 22 รายที่เพิ่งตรวจพบเมือสัปดาห์ก่อนจะทำให้ผู้ค้าสลากปรับราคาขายลงมาให้เท่ากับราคาสลากหน้าตั๋วคือ 80 บาทต่อใบในไม่ช้านี้
