กองสลากฯ หารือ ปณท หลังทราบได้ค่าชดเชย 2,000 บาท จากกรณีสลากฯ จำนวน 4.28 หมื่นฉบับสูญหาย น้อยกว่าความเสียหายที่สูงถึง 1.7 ล้านบาท
ทญ.กุณฑีรา ตันติรังสี รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวภายหลังหารือกับตัวแทนระดับผู้ช่วยกรรมการฝ่ายบริการและฝ่ายกฎหมายของ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ก.ค.สูญหายจำนวน 4.28 หมื่นฉบับ มูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาทว่า ทาง ปณท ระบุว่า ระเบียบของบริษัทจะมีการจ่ายชดเชยให้พัสดุที่ไม่ลงทะเบียนห่อละ 1,000 บาทเท่านั้น กรณีของสลากมีจำนวน 2 ห่อก็คิดเป็นเงินเพียง 2,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างมาก ทางสำนักงานสลากจึงขอให้ไปรษณีย์ไปพิจารณาว่าจะช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อย่างไร เนื่องจากตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ทางสำนักงานสลากฯ ไม่เคยส่งแบบลงทะเบียนหรือทำประกันเพราะจะทำให้มีต้นทุนดำเนินการที่สูงขึ้นและก็ไม่เคยเกิดปัญหาขึ้นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตสำนักงานสลากฯ คงต้องทำประกันสลากกินแบ่งที่จัดส่งไปตามต่างจังหวัดด้วย โดยต้องหาแนวทางบริหารต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนสลากฯที่อายัดกว่า 40,000 ฉบับ นั้น ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อผลการออกรางวัลในงวดนี้ โดยหากเป็นสลากที่ถูกรางวัลจะไม่สามารถนำมาขึ้นเงินได้ และเงินรางวัลดังกล่าวจะตกเป็นของแผ่นดินเหมือนสลากที่ถูกอายัดอื่นๆ
รักษาการ ผอ.สำนักงานสลากฯ ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาขายสลากฯเกินราคาว่า ที่ผ่านมาทางกองสลากฯ ได้เรียกผู้ค้ารายใหญ่ที่ได้โควตาตั้งแต่ 5,000 เล่มขึ้นไป มาหารือเพื่อขอความร่วมมือให้จำหน่ายสลากตามราคาหน้าสลากคู่ละ 80 บาทตั้งแต่งวดวันที่ 16 ก.ค.นี้ รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังคลังจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดูแลผู้ค้ารายย่อยให้จำหน่ายสลากฯตามราคาอย่างเข้มงวดมากขึ้น อีกทั้งได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการจับกุมอย่างจริงจังหากพบว่าผู้ค้ารายใดขายเกินราคาที่กำหนด
“แนวทางดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่สำนักงานสลากฯ จะทำได้ในช่วงนี้ เพราะการที่ไม่มีผู้อำนวยการปฏิบัติงานนั้น ตามระเบียบทำให้ไม่สามารถเรียกประชุมและอนุมัติเรื่องใดๆ ได้จึงถือเป็นข้อจำกัดในการทำงานช่วงนี้ ซึ่งทางกองสลากฯ จะชี้แจงให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบต่อไป โดยบอร์ดจะประชุมได้กรณีที่มีการสรรหาผู้อำนวยการใหม่เท่านั้น ซึ่งกระบวนการสรรหาก็คงใช้เวลาประมาณ 2 เดือน” ทญ.กุณฑีรา กล่าว
