นายมณเฑียร บุญตัน อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูประบบบริหารจัดการสลากในประเทศไทย วุฒิสภา เปิดเผยในการเสวนาปฏิรูประบบบริหารจัดการสลากกินแบ่งรัฐบาล "กองสลากทำหวยแพง คสช.แก้อย่างไร" ที่จัดโดยเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก ร่วมกับเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน เครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนภาคประชาชน ที่โรงแรมเอเชีย ว่า การกำหนดมาตรการราคาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เกิน 80 บาท ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาสลากราคาแพงในระยะยาวได้ เพราะหากไม่มีการควบคุมในอนาคต ราคาสลากจะปรับตัวสูงขึ้นตามเดิม ซึ่งการแก้ปัญหาระยะยาวของสลากกินแบ่งฯ จะต้องปรับนโยบายจากการหารายได้เข้ารัฐเป็นสลากการกุศล เพื่อพัฒนาสังคม และยกเลิกพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และออกพระราชบัญญัติกองทุนส่งเสริมการพัฒนาภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม วางโครงสร้างบริหารจัดการสลาก จัดสรรรายได้ให้ชัดเจน โดยให้รายได้ร้อยละ 60 ของการขายสลาก เป็นเงินรางวัล ร้อยละ 15 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสลาก ร้อยละ 10 เป็นภาษีสลากส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และร้อยละ 15 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาสังคม
ขณะที่ รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ร่วมเสวนา กล่าวว่า ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแพง กองสลากทราบแต่ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากปัญหาคอร์รัปชั่น และการมีผู้ค้ารายใหญ่ที่ได้โควต้ามาก สามารถควบคุมราคาตลาดได้ รวมถึงการที่ตัวเลขบางตัวเป็นที่นิยมจากผู้ซื้อ ทำให้ขายได้ในราคาสูงกว่าปกติ โดยการแก้ปัญหาดังกล้าวต้องดำเนินการกับผู้ค้ารายใหญ่ และให้กองสลากจัดสรรโควตาให้ผู้ค้ารายย่อยมากขึ้น เช่น ให้ผู้ค้ารายย่อยรับสลากจากไปรษณีย์ และการจัดการตัวเลขที่ไม่เป็นที่นิยมให้มีการซื้อคืนจากผู้ค้ารายย่อย และขึ้นบัญชีดำผู้ค้าสลากเกินราคา โดยเครือข่ายปฏิรูปสลาก จะรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนทั่วประเทศ 2 แสนรายชื่อ เสนอต่อ คสช.ภายใน 1 เดือน
ขณะที่ รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ร่วมเสวนา กล่าวว่า ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแพง กองสลากทราบแต่ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากปัญหาคอร์รัปชั่น และการมีผู้ค้ารายใหญ่ที่ได้โควต้ามาก สามารถควบคุมราคาตลาดได้ รวมถึงการที่ตัวเลขบางตัวเป็นที่นิยมจากผู้ซื้อ ทำให้ขายได้ในราคาสูงกว่าปกติ โดยการแก้ปัญหาดังกล้าวต้องดำเนินการกับผู้ค้ารายใหญ่ และให้กองสลากจัดสรรโควตาให้ผู้ค้ารายย่อยมากขึ้น เช่น ให้ผู้ค้ารายย่อยรับสลากจากไปรษณีย์ และการจัดการตัวเลขที่ไม่เป็นที่นิยมให้มีการซื้อคืนจากผู้ค้ารายย่อย และขึ้นบัญชีดำผู้ค้าสลากเกินราคา โดยเครือข่ายปฏิรูปสลาก จะรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนทั่วประเทศ 2 แสนรายชื่อ เสนอต่อ คสช.ภายใน 1 เดือน