พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ค้าสลาก อ.วังสะพุง จ.เลย ที่ไม่สามารถทำการสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้าได้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก เพราะจากยอดลงทะเบียนรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการกว่า 75,000 ราย ส่งผลให้ความต้องการของผู้ค้าสลากฯ มีสัดส่วนสูงกว่าสลากฯ ที่สำนักงานสลากฯ สามารถจัดพิมพ์สูงสุดได้ในแต่ละงวดที่100 ล้านฉบับ หรือคิดเป็น 50 ล้านใบ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่ลงทะเบียนก็ไม่สามารถสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้าได้เช่นกัน
ทั้งนี้ จากข้อมูลผ่านการทำธุรกรรมของประชาชนที่ดำเนินการผ่านโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 ต.ค.58 พบว่า จังหวัดเลยมีการสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้า มาเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นระบบที่มีมาตรฐานสากลของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ถือเป็นธนาคารขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ และที่ผ่านมาได้ซักซ้อมและเตรียมระบบมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญการเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ โดยจะให้สิทธิ์สำหรับการสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้าที่เข้ามาทำธุรกรรมเป็นลำดับต้นๆ จนครับจำนวนที่สำนักงานสลากฯ สามารถจัดพิมพ์สูงสุดได้แต่ละงวด
"ที่ผ่านมา คณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติกระจายสลากให้ถึงมือรายย่อยมากขึ้น โดยกำหนดให้สำนักงานสลากฯ ปรับลดจำนวนสลากฯ ในโครงการสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้า จากสูงสุด 50 เล่มคู่ เป็น 15 เล่มคู่ ชั่วคราวไปจนกว่าจะเข้าสู่สมดุล หรือช่วงที่จะมีการจัดสรรสลากโควตาใหม่ช่วงเดือนธ.ค. โดยจะเริ่มเปิดให้ซื้อและจองสลากฯ ล่วงหน้า วันที่ 18-22 ต.ค. เป็นงวดซื้อวันที่ 1 พ.ย. และจองล่วงหน้า งวดวันที่ 16 พ.ย.58 ซึ่งจะทำให้สามารถกระจายสลากไปสู่ผู้ค้ารายย่อยได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า6,000-8,000 ราย"
สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้า ได้ 3 ช่องทางทั้งดำเนินการผ่านที่ทำการ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ในเวลาเปิดทำการ และยังสามารถดำเนินการผ่าน ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. และผ่านระบบ เน็ต แบงก์ ของธนาคารกรุงไทย ในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น.เช่นกัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงเวลาทำรายการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและตู้เอทีเอ็มจากเดิมเริ่มตั้งแต่ 05.00 น. นั้น เพื่อเป็นการลดความเสียเปรียบของผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าที่ประสงค์จะทำรายการผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ซึ่งเปิดทำการในเวลา 08.30 น. หรือตามเวลาเปิดทำการของห้างสรรพสินค้ากรณีสาขาธนาคารตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า
ทั้งนี้ จากข้อมูลผ่านการทำธุรกรรมของประชาชนที่ดำเนินการผ่านโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 ต.ค.58 พบว่า จังหวัดเลยมีการสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้า มาเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นระบบที่มีมาตรฐานสากลของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ถือเป็นธนาคารขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ และที่ผ่านมาได้ซักซ้อมและเตรียมระบบมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญการเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ โดยจะให้สิทธิ์สำหรับการสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้าที่เข้ามาทำธุรกรรมเป็นลำดับต้นๆ จนครับจำนวนที่สำนักงานสลากฯ สามารถจัดพิมพ์สูงสุดได้แต่ละงวด
"ที่ผ่านมา คณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติกระจายสลากให้ถึงมือรายย่อยมากขึ้น โดยกำหนดให้สำนักงานสลากฯ ปรับลดจำนวนสลากฯ ในโครงการสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้า จากสูงสุด 50 เล่มคู่ เป็น 15 เล่มคู่ ชั่วคราวไปจนกว่าจะเข้าสู่สมดุล หรือช่วงที่จะมีการจัดสรรสลากโควตาใหม่ช่วงเดือนธ.ค. โดยจะเริ่มเปิดให้ซื้อและจองสลากฯ ล่วงหน้า วันที่ 18-22 ต.ค. เป็นงวดซื้อวันที่ 1 พ.ย. และจองล่วงหน้า งวดวันที่ 16 พ.ย.58 ซึ่งจะทำให้สามารถกระจายสลากไปสู่ผู้ค้ารายย่อยได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า6,000-8,000 ราย"
สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อ-จองสลากฯ ล่วงหน้า ได้ 3 ช่องทางทั้งดำเนินการผ่านที่ทำการ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ในเวลาเปิดทำการ และยังสามารถดำเนินการผ่าน ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. และผ่านระบบ เน็ต แบงก์ ของธนาคารกรุงไทย ในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น.เช่นกัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงเวลาทำรายการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและตู้เอทีเอ็มจากเดิมเริ่มตั้งแต่ 05.00 น. นั้น เพื่อเป็นการลดความเสียเปรียบของผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าที่ประสงค์จะทำรายการผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ซึ่งเปิดทำการในเวลา 08.30 น. หรือตามเวลาเปิดทำการของห้างสรรพสินค้ากรณีสาขาธนาคารตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า