พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงนโบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองและไม่มีนโยบายประชานิยม จึงไม่ต้องทำงานเพื่อหวังคะแนนเสียง พร้อมย้ำว่า คสช.จะไม่เข้ามาก้าวก่ายการทำงานของรัฐบาล แต่จะสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามแผนโรดแมป 3 ระยะที่วางไว้จนนำไปสู่การเลือกตั้งที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับนโยบายทั้ง 11 ด้านที่แถลงต่อ สนช.ครอบคลุมทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องของการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคง การลดความเหลื่อมล้ำ การศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมบทบาทในประชาคมอาเซียน การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การบริหาราชการให้มีธรรมาภิบาล และปกป้องการทุจริต รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำเสมอคือจะเน้นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับสมาชิกที่ลงชื่ออภิปรายในวันนี้ (12 ก.ย.) มีทั้งสิ้น 20 คน ทั้งหมดจะใช้เวลาในการอภิปรายแล้วเสร็จภายในวันเดียวและจะไม่มีการลงมติ จากนั้นรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะเข้าทำงานที่กระทรวงของตนเองเพื่อมอบนโยบายให้กับข้าราชการ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีภารกิจในการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่อําเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
ส่วนเรื่องของการทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อเข้ามารับตำแหน่งแล้วจะต้องมีการเดินทางเยือนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเป็นการแนะนำตัวในฐานะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ เลือกที่จะเยือนสหภาพเมียนมาร์เป็นประเทศแรก
สำหรับนโยบายทั้ง 11 ด้านที่แถลงต่อ สนช.ครอบคลุมทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องของการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคง การลดความเหลื่อมล้ำ การศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมบทบาทในประชาคมอาเซียน การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การบริหาราชการให้มีธรรมาภิบาล และปกป้องการทุจริต รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำเสมอคือจะเน้นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับสมาชิกที่ลงชื่ออภิปรายในวันนี้ (12 ก.ย.) มีทั้งสิ้น 20 คน ทั้งหมดจะใช้เวลาในการอภิปรายแล้วเสร็จภายในวันเดียวและจะไม่มีการลงมติ จากนั้นรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะเข้าทำงานที่กระทรวงของตนเองเพื่อมอบนโยบายให้กับข้าราชการ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีภารกิจในการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่อําเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
ส่วนเรื่องของการทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อเข้ามารับตำแหน่งแล้วจะต้องมีการเดินทางเยือนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเป็นการแนะนำตัวในฐานะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ เลือกที่จะเยือนสหภาพเมียนมาร์เป็นประเทศแรก