นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. แอลดีซี เด็นทัล (LDC) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 กันยายน 2557 โดย LDC เป็นผู้ให้บริการทางทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางด้วยคุณภาพระดับสูง ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “LDC” ปัจจุบันมีศูนย์ทันตกรรมให้บริการจำนวน 19 สาขา และคลินิกทันตกรรมทั่วไป 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้ง LDC ยังมีสถาบันฝึกอบรมผู้ช่วยทันตกรรมของตัวเอง สำหรับผลิตบุคลากรสนับสนุนงานด้านทันตกรรม เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
LDC มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 180 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 600 ล้านบาท มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) (LDC) เปิดเผยถึงการซื้อขายหุ้น LDC วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ว่า LDC เป็นผู้ให้บริการด้านทันตกรรมรายแรกที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท โดยจะนำเงินระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายสาขาใหม่ จำนวน 5 สาขา ภายใน 1 ปี
"ผมมีความมั่นใจในการซื้อขายวันแรกที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทำให้หุ้น LDC สามารถยืนเหนือจองได้ที่ 1.50 บาท/หุ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีความเป็นมืออาชีพสูง ในการเป็นผู้ประกอบธุรกิจทันตกรรมแบบครบวงจรภายใต้รูปแบบศูนย์ทันตกรรม โดยมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการภายใต้ทันตแพทย์เฉพาะทาง ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน และระบบความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นสำคัญ"
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จำนวน 180 ล้านบาท บริษัทจะนำไปขยายศูนย์ ทันต กรรม และนำเป็นเงินหมุนหมุนเวียน ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนสำหรับการขยายกิจการได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งจำนวน 100 ล้านบาทจากทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 70 ล้านบาทในปัจจุบัน โดยครอบครัวชัยวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ร้อยละ 69.80
“เรื่องราคายืนเหนือจอง เรามีความมั่นใจมากว่าหุ้น LDC จะได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและมีราคายืนเหนือจองได้ จากความโดดเด่นทางธุรกิจการเป็นศูนย์ทันตกรรมรายแรกและรายเดียวที่ก้าวเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น เพราะการเข้ามาระดมทุนของเราในครั้งนี้ จะช่วยในเรื่องการขยายสาขา ที่เป็นตัวต่อยอดทางธุรกิจที่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายให้ครอบคลุมตามไปถึงหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดต่างๆ ตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการเจรจาทางธุรกิจอื่นๆ อีก เพื่อการเติบโตในธุรกิจศูนย์ทันตกรรมที่เป็นสากล นอกจากความพร้อมทางการเงินในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทฯ ยังมีโอกาสศึกษาการขยายธุรกิจในช่องทางต่าง ๆ อีกด้วย จากปัจจุบัน LDC มีสาขาแล้วทั้งสิ้น 20 สาขา" ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซส โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า LDC พร้อมเดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่สงบนิ่งและชัดเจนเรื่องการมีผู้ปกครองประเทศอย่างเป็นทางการ รวมถึงสภาวะตลาดหุ้นที่ยังไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบให้น่ากังวล
“ราคาไอพีโอที่ 1.50 บาท นั้น ผมมองว่าเป็นราคาที่เหมาะสมที่จะดึงดูดและสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ลงทุน ที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้น LDC ประกอบกับการมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและรายได้ที่มีโอกาสขยายตัวอีกมาก จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงจุดเด่นของธุรกิจในเรื่องมาตรฐานทางการรักษา และการบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา การเป็นศูนย์ทันตกรรมที่ครบวงจรและเน้นการให้บริการโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง ทำให้ผมมั่นใจว่า หุ้น LDC จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังและจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายสมภพ กล่าว
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผย ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ของบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) ว่า มั่นใจว่าราคาหุ้นจะยืนเหนือราคาจองที่ 1.50 บาทต่อหุ้นได้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด(มหาชน) เป็นที่สนใจของนักลงทุนเนื่องจากธุรกิจด้านทันตกรรมมีโอกาสเติบโตอีกมากจากความต้องการรับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพระดับสูงขึ้น และ LDC มีความพร้อมรองรับผู้ต้องการรับบริการทางทันตกรรม จากปัจจัยข้างต้นเหล่านี้เชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ที่จะเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อมองถึงการลงทุนในระยายาวกับ LDC และขอให้นักลงทุนมั่นใจว่า LDC จะยึดมั่นในการเป็นบรรษัทภิบาล และมั่นคงไว้ซึ่งจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ บริษัทฯ มั่นใจหลังเข้าทำการซื้อขาย LDC จะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวังอย่างแน่นอน
"เชื่อมั่นว่าหุ้น LDC ที่จะเข้าซื้อขายวันแรก 2 ก.ย. นี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี เพราะได้รับแรงหนุนจากพื้นฐานธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต และช่วงเปิดจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค. ที่ผ่านมา. นักลงทุนสนใจจองซื้ออย่างมาก และคาดว่าจะมีนักลงทุนจำนวนมากรอซื้อบนกระดาน ประกอบกับผู้ร่วมจัดจำหน่ายทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย บล.ฟิลลิป ให้ราคาเหมาะสมที่ 2.62 บาทต่อหุ้น, บล.โนมูระพัฒนสิน ให้ราคาเหมาะสมที่ 2.50 บาทต่อหุ้น, บล. เคจีไอ ให้ราคาเหมาะสมที่ 2 บาทต่อหุ้น, บล.ฟินันเซียไซรัส และบล.แอพเพิล เวลธ์ ให้ราคาเหมาะสมที่ 1.80 บาทต่อหุ้น คิดเป็นราคาเหมาะสมเฉลี่ย 5 โบรกที่ 2.14บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาจองซื้อไอพีโอที่ 1.50บาทต่อหุ้น เนื่องจาก อุตสาหกรรมทันตกรรมมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากแผนการขยายสาขาของ LDC อย่างต่อเนื่อง โดยการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ จะสามารถทำให้ LDC ขยายสาขาได้รวดเร็วมากขึ้น จึงมองหุ้น LDC น่าสนใจ มีอัตราการเติบโตสูง อีกทั้ง ยังเป็นหุ้นทันตกรรมตัวแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai " นายวิชากล่าว
LDC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชัยวัฒน์ ถือหุ้น 69.85% นายพิชิต ชินวิทยากุล 0.41% กลุ่มครอบครัวก่อธรรมฤทธิ์ 0.37% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) ที่ 75 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 กรกฎาคม 2556 – 30 มิถุนายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองต่างๆทั้งหมด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ldcdental.com และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th
LDC มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 180 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 600 ล้านบาท มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) (LDC) เปิดเผยถึงการซื้อขายหุ้น LDC วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ว่า LDC เป็นผู้ให้บริการด้านทันตกรรมรายแรกที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท โดยจะนำเงินระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายสาขาใหม่ จำนวน 5 สาขา ภายใน 1 ปี
"ผมมีความมั่นใจในการซื้อขายวันแรกที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทำให้หุ้น LDC สามารถยืนเหนือจองได้ที่ 1.50 บาท/หุ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีความเป็นมืออาชีพสูง ในการเป็นผู้ประกอบธุรกิจทันตกรรมแบบครบวงจรภายใต้รูปแบบศูนย์ทันตกรรม โดยมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการภายใต้ทันตแพทย์เฉพาะทาง ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน และระบบความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นสำคัญ"
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จำนวน 180 ล้านบาท บริษัทจะนำไปขยายศูนย์ ทันต กรรม และนำเป็นเงินหมุนหมุนเวียน ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนสำหรับการขยายกิจการได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งจำนวน 100 ล้านบาทจากทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 70 ล้านบาทในปัจจุบัน โดยครอบครัวชัยวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ร้อยละ 69.80
“เรื่องราคายืนเหนือจอง เรามีความมั่นใจมากว่าหุ้น LDC จะได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและมีราคายืนเหนือจองได้ จากความโดดเด่นทางธุรกิจการเป็นศูนย์ทันตกรรมรายแรกและรายเดียวที่ก้าวเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น เพราะการเข้ามาระดมทุนของเราในครั้งนี้ จะช่วยในเรื่องการขยายสาขา ที่เป็นตัวต่อยอดทางธุรกิจที่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายให้ครอบคลุมตามไปถึงหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดต่างๆ ตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการเจรจาทางธุรกิจอื่นๆ อีก เพื่อการเติบโตในธุรกิจศูนย์ทันตกรรมที่เป็นสากล นอกจากความพร้อมทางการเงินในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทฯ ยังมีโอกาสศึกษาการขยายธุรกิจในช่องทางต่าง ๆ อีกด้วย จากปัจจุบัน LDC มีสาขาแล้วทั้งสิ้น 20 สาขา" ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซส โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า LDC พร้อมเดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่สงบนิ่งและชัดเจนเรื่องการมีผู้ปกครองประเทศอย่างเป็นทางการ รวมถึงสภาวะตลาดหุ้นที่ยังไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบให้น่ากังวล
“ราคาไอพีโอที่ 1.50 บาท นั้น ผมมองว่าเป็นราคาที่เหมาะสมที่จะดึงดูดและสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ลงทุน ที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้น LDC ประกอบกับการมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและรายได้ที่มีโอกาสขยายตัวอีกมาก จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงจุดเด่นของธุรกิจในเรื่องมาตรฐานทางการรักษา และการบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา การเป็นศูนย์ทันตกรรมที่ครบวงจรและเน้นการให้บริการโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง ทำให้ผมมั่นใจว่า หุ้น LDC จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังและจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายสมภพ กล่าว
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผย ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ของบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) ว่า มั่นใจว่าราคาหุ้นจะยืนเหนือราคาจองที่ 1.50 บาทต่อหุ้นได้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด(มหาชน) เป็นที่สนใจของนักลงทุนเนื่องจากธุรกิจด้านทันตกรรมมีโอกาสเติบโตอีกมากจากความต้องการรับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพระดับสูงขึ้น และ LDC มีความพร้อมรองรับผู้ต้องการรับบริการทางทันตกรรม จากปัจจัยข้างต้นเหล่านี้เชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ที่จะเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อมองถึงการลงทุนในระยายาวกับ LDC และขอให้นักลงทุนมั่นใจว่า LDC จะยึดมั่นในการเป็นบรรษัทภิบาล และมั่นคงไว้ซึ่งจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ บริษัทฯ มั่นใจหลังเข้าทำการซื้อขาย LDC จะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวังอย่างแน่นอน
"เชื่อมั่นว่าหุ้น LDC ที่จะเข้าซื้อขายวันแรก 2 ก.ย. นี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี เพราะได้รับแรงหนุนจากพื้นฐานธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต และช่วงเปิดจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค. ที่ผ่านมา. นักลงทุนสนใจจองซื้ออย่างมาก และคาดว่าจะมีนักลงทุนจำนวนมากรอซื้อบนกระดาน ประกอบกับผู้ร่วมจัดจำหน่ายทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย บล.ฟิลลิป ให้ราคาเหมาะสมที่ 2.62 บาทต่อหุ้น, บล.โนมูระพัฒนสิน ให้ราคาเหมาะสมที่ 2.50 บาทต่อหุ้น, บล. เคจีไอ ให้ราคาเหมาะสมที่ 2 บาทต่อหุ้น, บล.ฟินันเซียไซรัส และบล.แอพเพิล เวลธ์ ให้ราคาเหมาะสมที่ 1.80 บาทต่อหุ้น คิดเป็นราคาเหมาะสมเฉลี่ย 5 โบรกที่ 2.14บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาจองซื้อไอพีโอที่ 1.50บาทต่อหุ้น เนื่องจาก อุตสาหกรรมทันตกรรมมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากแผนการขยายสาขาของ LDC อย่างต่อเนื่อง โดยการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ จะสามารถทำให้ LDC ขยายสาขาได้รวดเร็วมากขึ้น จึงมองหุ้น LDC น่าสนใจ มีอัตราการเติบโตสูง อีกทั้ง ยังเป็นหุ้นทันตกรรมตัวแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai " นายวิชากล่าว
LDC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชัยวัฒน์ ถือหุ้น 69.85% นายพิชิต ชินวิทยากุล 0.41% กลุ่มครอบครัวก่อธรรมฤทธิ์ 0.37% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) ที่ 75 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 กรกฎาคม 2556 – 30 มิถุนายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองต่างๆทั้งหมด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ldcdental.com และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th