“แอล ดีซี เด็นทัล” พร้อมผู้บริหาร แอสเซตโปรฯ ที่ปรึกษาทางการเงิน เตรียมเดินหน้าโรดโชว์ 10 จังหวัด ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. ถึง 1 ส.ค. 57 นี้ เริ่มที่ จ.ชลบุรี และปิดท้ายที่ กรุงเทพฯ เชื่อนักลงทุนให้การตอบรับเข้าฟังข้อมูลล้นหลาม และเทรดตามแผนเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ mai โดย เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 120 ล้าน หุ้น เพื่อนำเงินระดมทุนขยายศูนย์ทันตกรรมในภูมิภาคต่างๆ และใช้เป็นเงิน ทุนหมุนเวียน
ทันตแพทย์ วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC เปิดเผยว่า การนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนใน 10 จังหวัดทั่วประเทศนั้น ถือเป็นโอกาสดีในการนำเสนอข้อมูลบริษัท ให้เป็นที่รู้จักในวง กว้างของสังคมการลงทุน ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ทันตกรรมแบบครบวงจรภายใต้รูปแบบศูนย์ทันตกรรม
ปัจจุบัน (ณ เมษายน 2557) LDC มี สาขาทั้งหมด 19 สาขา เป็นคลินิกทันต กรรมขนาดใหญ่ 8 สาขา ขนาดกลาง 11 สาขา และขนาดเล็ก 1 สาขา ครอบคลุม พื้นที่ใน เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และมีห้องทันตกรรมให้บริการรวม 105 ห้อง โดยในปี 2557 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขา LDC Dental จำนวน 5 สาขา ซึ่งได้มีการลงทุนสาขาใหม่ 2 สาขาแล้ว คือ สาขารามอินทรา กม. 10 (เปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 แล้ว) และ สาขาศาลายา (คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายใน เดือนตุลาคม 2557) สำหรับสาขาใหม่ที่ เหลือตามแผน ข้างต้นนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการสำรวจทำเลที่เหมาะสมทั้งใน กรุงเทพฯ และตามหัวเมือง จังหวัดใหญ่ในแต่ละภูมิภาค
“ผมมั่นใจว่า LDC มีความแตกต่างจากธุรกิจทันตกรรม อื่นๆ ทั่วไป เราเป็นคลินิก ทันตกรรมรายแรก ที่มีความพร้อม ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ ซึ่งการระดมทุน ผ่านตลาดทุนช่วยให้มีระบบ ตรวจสอบ มีบรรษัทภิบาลที่ดี และเป็นที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งสามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว โดยการวางแผนเดินทางไปโรดโชว์ในหัวเมืองสำคัญจะทำให้นักลงทุนเข้าใจธุรกิจ LDC มากขึ้น ซึ่งเราถือได้ว่าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจทันตกรรมครบวงจรที่มีมาตรฐานอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย และการจัดการห้องปลอดเชื้อที่มีประสิทธิภาพ บุคลากร ทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความสามารถ ทั้งยังมีจุดเด่นเรื่องความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการ เพราะเรามีสาขา ครอบคลุมเขตพื้นที่ชุมชนของกรุงเทพฯและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ฝึก อบรมผู้ช่วยทันตกรรมภายใต้การบริหารงานของบริษัท เราจึงไม่มีปัญหาขาดแคลนบุคคลากรผู้ช่วยทันตกรรม ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นจุดแข็ง ทางธุรกิจของ LDC” ทันตแพทย์ วัฒนา กล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จํากัด เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) (LDC) ว่า LDC ได้ ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้น สามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของ สำนักงาน ก.ล.ต. การ เตรียมพร้อมในการนำเสนอข้อมูล LDC ต่อนักลงทุน ระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม 2557 นี้ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี, ราชบุรี, เชียงใหม่, อุบลราชธานี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, พิษณุโลก, สงขลา, ภูเก็ต และกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลธุรกิจของ LDC ซึ่งถือเป็นธุรกิจทันตกรรมแบบครบวงจรรายแรก ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอไอ
โดย งวดปี 2556 LDC มี รายได้รวม 350.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดปี 2555 ที่มีรายได้รวม 315.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 11.07% ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2556 อยู่ที่ 13.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 11.25 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 17.42% ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของรายได้ และกำไรมาจากอัตราการใช้บริการเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นโดยในปี 2556 บริษัทฯ มีอัตราการเข้าใช้บริการเฉลี่ย 62.52% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดปี 2555 ที่มีอัตราการเข้า ใช้บริการเฉลี่ย 53.28% ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนสาขาส่งผลให้สามารถให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มผู้รับบริการมากขึ้น ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท แบ่งเป็นทุนชำระแล้ว 70 ล้านบาท เป็นหุ้นจำนวน 280 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท/หุ้น ทั้งนี้ LDC อยู่ ระหว่างกระบวน การพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.)
“LDC วาง แผนการเดินสาย โรดโชว์ทั้ง สิ้น 10 จังหวัด เชื่อมั่นว่าจะ ได้รับการตอบรับที่ดีมากจาก นักลงทุนในภูมิภาค คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลทั้งหมดกว่า 2,000 คน เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการมีมาตรฐานและคุณภาพในการประกอบวิชาชีพ ทางทันตกรรมที่เฉพาะทาง รวมถึงการขยายสาขาที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคที่ถือเป็นการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มช่องทางในสัดส่วนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนเสนอขายหลักทรัพย์ต่อ ประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจและขยายศูนย์ทันตกรรมไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจได้อีกในอนาคต” นายสมภพ กล่าว
ด้านนายวิชาโตมานะ กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลัก ทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศ ไทย) จำกัด เปิดเผยในฐานะผู้จัดการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น บริษัทแอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) ว่าการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนใน 10 จังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อให้นักลงทุนรู้จักการประกอบธุรกิจ ของ LDC ประกอบนำเสนอวิสัยทัศน์การบริหาร ศักยภาพการเติบโต และแผนการดำเนินงาน
“ธุรกิจของ LDC จัดได้ว่าเป็นการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางด้านทันต กรรม ซึ่งขณะนี้ไม่มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยที่ประกอบ ธุรกิจลักษณะนี้โดยเฉพาะ ซึ่งถือว่า LDC เป็นบริษัทที่น่าสนใจอย่างมาก การโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในครั้งนี้ทั้ง 10 จังหวัด ทำให้นักลงทุนรู้จัก และเข้าใจลักษณะการดำเนินธุรกิจของ LDC มากยิ่งขึ้นว่ามีความแตกต่างกับคลินิกทันตกรรมทั่วไปอย่างไร การขยายตัวและทิศทางการเติบโตของธุรกิจที่ มีอนาคตสาเหตุจากผู้ที่ต้องการเข้าถึงบริการทันตกรรมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งรับรู้ วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร แผนการดำเนินงาน และศักยภาพการ เติบโต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน” นายวิชา กล่าว