ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บริษัท แอลดีซี เด็นทัล เดินหน้าแผนเข้าจดทะเบียนในตลาด mai หลังแอสเซทโปรฯ-ฟิลลิป ควงแขนโรดโชว์ครบ 10 จังหวัด
ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) (LDC) นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน และนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบริษัท LDC จัดโรดโชว์แผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ของบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) (LDC) ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2557 ที่ผ่านมา โดยมีนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักลงทุนในจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วม
ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC ผู้ให้บริการศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางในศูนย์ทันตกรรม LDC กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯได้อยู่ระหว่างการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน โดยได้เดินทางไปหลายจังหวัด เช่น จังหวัดชลบุรี ราชบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากซึ่งเป็นโอกาสดีในการนำเสนอข้อมูลบริษัทให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างของสังคมการลงทุน ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทันตกรรมแบบครบวงจรภายใต้รูปแบบศูนย์ทันตกรรม โดยมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการภายใต้ทันตแพทย์เฉพาะทาง อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน และระบบความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นสำคัญ
ทันตแพทย์วัฒนา กล่าวอีกว่า LDC ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน สนใจรับฟังข้อมูล และสอบถามความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ LDC เป็นคลินิกทันตกรรมรายแรกที่มีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งการระดมทุนผ่านตลาดทุนช่วยให้บริษัทสามารถขยายสาขาให้บริการได้มากขึ้น และเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน มีสาขาให้บริการครอบคลุมเขตพื้นที่ชุมชนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเราไม่มีปัญหาการขาดแคลนบุคลากร เพราะเรามีศูนย์ฝึกอบรมผู้ช่วยทันตกรรมภายใต้การบริหารงานของบริษัทเอง
“เริ่มก่อตั้งในปี 2535 ภายใต้ชื่อ ลาดพร้าวทันตคลินิก โดยตนเองเป็นก่อตั้ง หลังจากดำเนินธุรกิจมาช่วงระยะหนึ่งก็ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างระบบมาตรฐานของธุรกิจทันตกรรม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่องค์กร จึงได้มีการพัฒนาเป็นศูนย์ทันตกรรมในนามศูนย์ทันตกรรมลาดพร้าว จำกัด และจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2543 และได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด” ทันตแพทย์วัฒนากล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) ขณะนี้ LDC อยู่ระหว่างการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์จากทางสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท โดยมีแผนการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนใน 10 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี, ราชบุรี, เชียงใหม่, อุบลราชธานี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, พิษณุโลก, สงขลา, ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ทั้งนี้ LDC จะเดินทางไปโรดโชว์ต่อนักลงทุนระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม-ถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2557 เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลธุรกิจของ LDC ซึ่งถือเป็นธุรกิจทันตกรรมแบบครบวงจรรายแรกที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ
หาก LDC เดินสายครบทั้งสิ้น 10 จังหวัด คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้ารับฟังข้อมูลรวมกันกว่า 2,000 คน และมั่นใจว่า LDC จะเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างสูง และจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ทั้งนี้ การเดินหน้าโรดโชว์ตามแผนของบริษัท LDC มี 10 จังหวัด โดยอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค. ถึงวันที่ 1 ส.ค. 57 พร้อมขายหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินระดมทุนขยายศูนย์ทันตกรรม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ
ขณะที่ นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) ว่า การนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนเพื่อการนำเสนอขายหุ้น จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาทต่อหุ้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากธุรกิจทันตกรรมเป็นธุรกิจที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ เป็นรายแรก รวมถึงมีศักยภาพเติบโตในอนาคตสูง
“ปัจจุบัน (ณ เมษายน 2557) LDC มีสาขาทั้งหมด 19 สาขา เป็นคลินิกทันตกรรมขนาดใหญ่ 8 สาขา ขนาดกลาง 11 สาขา และขนาดเล็ก 1 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมีห้องทันตกรรมให้บริการรวม 105 ห้อง โดยในปี 2557 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขา แอลดีซี เด็นทัล จำนวน 5 สาขา ซึ่งได้มีการลงทุนสาขาใหม่ 2 สาขาแล้ว คือ สาขารามอินทรา กม.10 (เปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 แล้ว) และสาขาศาลายา (คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือนตุลาคม 2557) สำหรับสาขาใหม่ที่เหลือตามแผนข้างต้นนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการสำรวจทำเลที่เหมาะสม ทั้งในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองจังหวัดใหญ่ในแต่ละภูมิภาค” นายวิชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 บริษัทฯ มีอัตราการเข้าใช้บริการเฉลี่ย 62.52% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีอัตราการเข้าใช้บริการเฉลี่ย 53.28% ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนสาขา ส่งผลให้สามารถให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มผู้รับบริการมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท แบ่งเป็นการชำระแล้ว 70 ล้านบาท เป็นหุ้น จำนวน 280 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ LDC อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ต่อไป