นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. เขตบางรัก ถูกทหารควบคุมตัวมาที่กองบังคับการปราบปราม หลังมีกลุ่มผู้ค้าหน้าวัดหัวลำโพงเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับนายพิพัฒน์ พร้อมพวก กรณีร่วมกันเรียกเก็บเงินจากกลุ่มผู้ค้าเป็นรายวัน และรายสัปดาห์ โดยอ้างว่า เป็นค่าสาธารณูปโภค เรียกเก็บตามหน่วยที่วางแผงค้าตารางเมตรละ 200 บาทต่อวัน ค่าไฟฟ้า ดวงละ 20 บาทต่อวัน แต่ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือเป็นวันที่ทางวัดจัดงานพิธีกรรมต่างๆ จะเรียกเก็บค่าวางแผงค้าเพิ่มอีกตารางเมตรละ 100 บาท
โดยกลุ่มผู้ค้าให้ข้อมูลว่ามี นายกฤชวัฏ หรือศุภชัย วงศ์ธีรานุภาพ ซึ่งเป็นผู้ค้า จะเป็นตัวแทนรวบรวมเงิน ไปส่งให้นายประเสริฐ พรมมิ ที่อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ส.ก.เขตบางรัก และเป็นเลขานุการมูลนิธิอุปถัมภ์บางรัก จากนั้นนายประเสริฐ ได้นำเงินดังกล่าว มอบให้นายพิพัฒน์
ขณะที่นายพิพัฒน์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการกระทำความผิด แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายประเสริฐจริง แต่ไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆ ร่วมกัน และนายประเสริฐ ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของตนตามที่กล่าวอ้าง
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารมีข้อมูลยืนยันว่านายพิพัฒน์ เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินจากกลุ่มผู้ค้า ประกอบกอบกับคำให้การของนายประเสิรฐ ที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวนายพิพัฒน์ ตามกฎอัยการศึก เพื่อซักถามข้อมูล และหากพบว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญา ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดี ฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดฐานเป็นคนกลางเรียกรับ ฐานเป็นอั้งยี่ และผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้าผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งต่อไป
โดยกลุ่มผู้ค้าให้ข้อมูลว่ามี นายกฤชวัฏ หรือศุภชัย วงศ์ธีรานุภาพ ซึ่งเป็นผู้ค้า จะเป็นตัวแทนรวบรวมเงิน ไปส่งให้นายประเสริฐ พรมมิ ที่อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ส.ก.เขตบางรัก และเป็นเลขานุการมูลนิธิอุปถัมภ์บางรัก จากนั้นนายประเสริฐ ได้นำเงินดังกล่าว มอบให้นายพิพัฒน์
ขณะที่นายพิพัฒน์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการกระทำความผิด แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายประเสริฐจริง แต่ไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆ ร่วมกัน และนายประเสริฐ ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของตนตามที่กล่าวอ้าง
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารมีข้อมูลยืนยันว่านายพิพัฒน์ เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินจากกลุ่มผู้ค้า ประกอบกอบกับคำให้การของนายประเสิรฐ ที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวนายพิพัฒน์ ตามกฎอัยการศึก เพื่อซักถามข้อมูล และหากพบว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญา ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดี ฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดฐานเป็นคนกลางเรียกรับ ฐานเป็นอั้งยี่ และผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้าผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งต่อไป