กระทรวงการต่างประเทศแถลงความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย ฉบับที่ 9 โดยระบุว่า ได้รับรายงานทางโทรศัพท์จากนายกิตติพงษ์ ณ ระนอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี ซึ่งได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือคนไทยชั่วคราวที่เมือง Djerba ของตูนีเซีย โดยเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่าสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานกับบริษัทนายจ้าง ซึ่งยืนยันจะดำเนินการส่งแรงงานไทยจำนวน 410 คนออกจากลิเบีย โดยแรงงานจะทยอยเดินทางโดยใช้สายการบินพาณิชย์และช่องทางต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ในชั้นนี้ แรงงานไทยชุดแรกจำนวน 18 คน จะเดินทางออกมาจากสนามบิน Al Beida ประเทศลิเบียในวันที่ 4 สิงหาคม และคาดว่าจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 6 สิงหาคม แรงงานชุดที่สองจำนวน 81 คนจะออกเดินทางออกจากประเทศลิเบียในวันที่ 6 สิงหาคม และคาดว่าจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 8 สิงหาคม
เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งเพิ่มเติมว่ามีแรงงานที่ได้แจ้งความจำนงเพื่อขอรับความช่วยเหลือกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการอพยพจำนวน 562 คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ในระหว่างการประสานกับบริษัทนายจ้างให้ลำเลียงแรงงานออกมาจากลิเบีย สถานเอกอัครราชทูตฯ พบว่าแรงงานจำนวนหนึ่งไม่มีเอกสารการเดินทางอยู่กับตัว หรือนายจ้างได้เก็บหนังสือเดินทางไว้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมการจัดทำหนังสือเดินทางชั่วคราวให้แก่แรงงานไทยในพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ มีแรงงานไทยจำนวน 30 คนได้แจ้งความจำนงว่าจะขออยู่ในลิเบียต่อ และแรงงานไทยอีก 300 คนยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทย โดยแรงงานบางส่วนได้เดินทางกลับมาประเทศไทยก่อนเกิดเหตุการณ์จลาจลในลิเบียแล้ว
ขณะนี้มีแรงงานไทยได้เดินทางออกมาจากกรุงตริโปลีและอยู่ระหว่างการรอข้ามชายแดนมายังประเทศ ตูนีเซียอีก 40 คน โดยสถานการณ์บริเวณชายแดนลิเบีย-ตูนีเซีย ยังมีความวุ่นวายและมีความแออัดเนื่องจากมีผู้ประสงค์ที่จะอพยพออกจากลิเบียเป็นจำนวนมาก มีการปิดชายแดนชั่วคราวในช่วงที่สถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น ซึ่งศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย ณ เมือง Djerba ได้ประสานงานอย่างเต็มที่กับทางการตูนีเซีย เพื่อที่ให้แรงงานสามารถเดินออกจากประเทศลิเบียในจังหวะที่เหมาะสมได้อย่างปลอดภัย
สำหรับสถานการณ์โดยทั่วไปในกรุงตริโปลีนั้น มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีการสู้รบในหลายพื้นที่ ล่าสุด เกิดเหตุลูกระเบิดตกห่างจากที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ที่กรุงตริโปลี ๒ – ๓ ช่วงตึก อย่างไรก็ดี ยังคงมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ประจำอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ รอให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ยังคงอาศัยอยู่ในกรุงตริโปลี
เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งเพิ่มเติมว่ามีแรงงานที่ได้แจ้งความจำนงเพื่อขอรับความช่วยเหลือกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการอพยพจำนวน 562 คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ในระหว่างการประสานกับบริษัทนายจ้างให้ลำเลียงแรงงานออกมาจากลิเบีย สถานเอกอัครราชทูตฯ พบว่าแรงงานจำนวนหนึ่งไม่มีเอกสารการเดินทางอยู่กับตัว หรือนายจ้างได้เก็บหนังสือเดินทางไว้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมการจัดทำหนังสือเดินทางชั่วคราวให้แก่แรงงานไทยในพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ มีแรงงานไทยจำนวน 30 คนได้แจ้งความจำนงว่าจะขออยู่ในลิเบียต่อ และแรงงานไทยอีก 300 คนยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทย โดยแรงงานบางส่วนได้เดินทางกลับมาประเทศไทยก่อนเกิดเหตุการณ์จลาจลในลิเบียแล้ว
ขณะนี้มีแรงงานไทยได้เดินทางออกมาจากกรุงตริโปลีและอยู่ระหว่างการรอข้ามชายแดนมายังประเทศ ตูนีเซียอีก 40 คน โดยสถานการณ์บริเวณชายแดนลิเบีย-ตูนีเซีย ยังมีความวุ่นวายและมีความแออัดเนื่องจากมีผู้ประสงค์ที่จะอพยพออกจากลิเบียเป็นจำนวนมาก มีการปิดชายแดนชั่วคราวในช่วงที่สถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น ซึ่งศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย ณ เมือง Djerba ได้ประสานงานอย่างเต็มที่กับทางการตูนีเซีย เพื่อที่ให้แรงงานสามารถเดินออกจากประเทศลิเบียในจังหวะที่เหมาะสมได้อย่างปลอดภัย
สำหรับสถานการณ์โดยทั่วไปในกรุงตริโปลีนั้น มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีการสู้รบในหลายพื้นที่ ล่าสุด เกิดเหตุลูกระเบิดตกห่างจากที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ที่กรุงตริโปลี ๒ – ๓ ช่วงตึก อย่างไรก็ดี ยังคงมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ประจำอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ รอให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ยังคงอาศัยอยู่ในกรุงตริโปลี
