ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในช่วงเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พบว่า นางลำเนา อยู่บำรุง ภรรยา เป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ปตท.ถนนเอกชัย มียอดเงินกว่า 31,000,000 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ร.ต.อ.เฉลิม แจ้งว่ามีรายได้ 1,845,420 บาท มีรายจ่าย 2,000,000 บาท มีทรัพย์สินทั้งหมด 171,283,656 บาท ไม่มีหนี้สิน ส่วนในบัญชีเงินฝากของนางลำเนา คู่สมรส ที่แจ้งเมื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของยอดเงินในหลายบัญชี และพบว่าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ปตท.ถนนเอกชัย เลขที่บัญชี 555-2-00816-5 มูลค่า 18,363,287 บาท หายไป มีบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ปตท.เอกชัย เลขที่บัญชี 555-2-00999-9 มูลค่า 31,880,000 บาท เพิ่มขึ้นมา
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม แจ้งว่า มีรายได้จากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 1,388,880 บาท ส่วนคู่สมรสมีรายได้จากค่าเช่า 240,000 บาท ดอกเบี้ยพันธบัตรไทยเข้มแข็ง 127,290 บาท และดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 89,250 บาท
ส่วนทรัพย์สินทั้งหมด ร.ต.อ.เฉลิม แจ้งว่า มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 74,711,547 บาท แบ่งเป็นเงินสดมูลค่า 400,000 บาท เงินฝากมูลค่า 447,097 บาท ที่ดินมูลค่า 47,764,450 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 22,100,000 บาท ยานพาหนะมูลค่า 4,000,000 บาท ขณะที่นางลำเนา คู่สมรส แจ้งว่า มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 96,572,099 บาท แบ่งเป็นเงินสดมูลค่า 800,000 บาท เงินฝากมูลค่า 45,537,939 บาท เงินลงทุนมูลค่า 8,149,160 บาท ที่ดินมูลค่า 22,285,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 19,500,000 บาท ยานพาหนะมูลค่า 300,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม และคู่สมรส แจ้งว่า มีรายได้ 2,459,880 บาท มีรายจ่าย 2,000,000 บาท มีทรัพย์สินทั้งหมด 178,209,858 บาท ไม่มีหนี้สิน เท่ากับว่า ร.ต.อ.เฉลิม มีรายได้เพิ่มขึ้น 614,460 บาท มีทรัพย์สินลดลง 6,926,202 บาท ส่วนรายจ่ายคงเดิมไม่มีหนี้สิน
จากการตรวจสอบพบว่า ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ร.ต.อ.เฉลิม แจ้งว่ามีรายได้ 1,845,420 บาท มีรายจ่าย 2,000,000 บาท มีทรัพย์สินทั้งหมด 171,283,656 บาท ไม่มีหนี้สิน ส่วนในบัญชีเงินฝากของนางลำเนา คู่สมรส ที่แจ้งเมื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของยอดเงินในหลายบัญชี และพบว่าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ปตท.ถนนเอกชัย เลขที่บัญชี 555-2-00816-5 มูลค่า 18,363,287 บาท หายไป มีบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ปตท.เอกชัย เลขที่บัญชี 555-2-00999-9 มูลค่า 31,880,000 บาท เพิ่มขึ้นมา
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม แจ้งว่า มีรายได้จากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 1,388,880 บาท ส่วนคู่สมรสมีรายได้จากค่าเช่า 240,000 บาท ดอกเบี้ยพันธบัตรไทยเข้มแข็ง 127,290 บาท และดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 89,250 บาท
ส่วนทรัพย์สินทั้งหมด ร.ต.อ.เฉลิม แจ้งว่า มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 74,711,547 บาท แบ่งเป็นเงินสดมูลค่า 400,000 บาท เงินฝากมูลค่า 447,097 บาท ที่ดินมูลค่า 47,764,450 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 22,100,000 บาท ยานพาหนะมูลค่า 4,000,000 บาท ขณะที่นางลำเนา คู่สมรส แจ้งว่า มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 96,572,099 บาท แบ่งเป็นเงินสดมูลค่า 800,000 บาท เงินฝากมูลค่า 45,537,939 บาท เงินลงทุนมูลค่า 8,149,160 บาท ที่ดินมูลค่า 22,285,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 19,500,000 บาท ยานพาหนะมูลค่า 300,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม และคู่สมรส แจ้งว่า มีรายได้ 2,459,880 บาท มีรายจ่าย 2,000,000 บาท มีทรัพย์สินทั้งหมด 178,209,858 บาท ไม่มีหนี้สิน เท่ากับว่า ร.ต.อ.เฉลิม มีรายได้เพิ่มขึ้น 614,460 บาท มีทรัพย์สินลดลง 6,926,202 บาท ส่วนรายจ่ายคงเดิมไม่มีหนี้สิน
