นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนขับรถเอกชนร่วมบริการสาย 8 ขับรถเบียดรถยนต์จนติดเกาะกลางถนนพหลโยธิน หน้าสวนจตุจักร ว่า ขสมก.ได้สั่งพักงานนายธนวัฒน์ คชบาน อายุ 25ปี คนขับรถและรถคันดังกล่าวเป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม เป็นต้นไป และถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,500 บาท ฐานขับรถประมาท และ ขสมก.ปรับเพิ่มเติมอีก 2,000 บาท แต่ทั้งนี้คนขับยังไม่มีการลาออกแต่อย่างใ ดซึ่งหากกลับมาทำงานอีกครั้ง ผู้ประกอบการอาจจะให้ไปขับในสายอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม การที่ ขสมก.ไม่สามารถยกเลิกสัญญาหรือถอนรถเมล์สายดังกล่าวได้ เนื่องจากหากมีการยกเลิกสัญญาก็จะกระทบกับการให้บริการประชาชน เพราะปัจจุบันรถเมล์ สาย 8 ให้บริการประชาชนถึ ง87 คัน วิ่งให้บริการวันละหลายร้อยเที่ยว และเป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้บริการกันในจำนวนมาก หากเลิกสัญญาหรือถอนรถออกไปทันทีโดยที่ไม่มีรถมาทดแทน คนที่จะลำบากก็คือประชาชน และขณะนี้ ขสมก.เองก็มีรถให้บริการน้อยอยู่แล้ว จึงต้องอาศัยรถร่วมฯ ในการให้บริการให้เพียงพอกับประชาชน ตนจึงเห็นว่าการลงโทษควรลงโทษที่ตัวบุคคลเป็นรายๆ ไป แต่ทั้งนี้หากพบว่าคนขับคนดังกล่าวกระทำความผิดอีกคงจะพิจารณาลงโทษด้วยการให้ออกไปในที่สุด
ทั้งนี้ หลังจากผู้ขับรถคันดังกล่าวได้เข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อสอบถามสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวคนขับรถได้ยอมรับว่าตนเองเกิดความประมาทจริงและได้รับความกดดันจากสังคมมากซึ่งหากไม่ลาออกก็จะปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น โดยหลังจากนายชัชชาติ ได้พูดคุยกับคนขับคนดังกล่าวแล้วได้มอบนโยบายให้กับ ขสมก.ดูแลในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยกำชับให้ให้มีการทำกล่องสำรวจคุณภาพการให้บริการรถร่วมเพิ่มเติม จากเดิมที่ดำเนินการในสาย 8 สายเดียว ให้ขยายไปยังสายอื่นที่มีสถิติการร้องเรียนสูง เพื่อเป็นการประเมินคนขับรถทุกคน รวมถึงการรับทราบปัญหาและหาทางป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นซ้ำรอย เนื่องจากจากกล่องแสดงความคิดเห็นของรถคันดังกล่าวที่เกิดอุบัติเหตุ ที่ ขสมก.ติดไว้เมื่อนำมาพิจารณาแล้ว มีผู้ร้องเรียนผ่านกล่องแสดงความคิดเห็นที่ติดบนรถคันดังกล่าวจากการให้บริการ 13 วัน พบว่าคนขับคนดังกล่าวขับรถแย่มากสูงถึง 44 คน ขับรถพอใช้ 56 คน และขับรถดี 72 คน ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถนำมาใช้ในการปรับการให้บริการและทราบประวัติการให้บริการของคนขับได้ดี อีกทั้งให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เพื่อทำการควบคุมดูแลรถให้มากขึ้นเพื่อเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุและเฝ้าระวังพฤติกรรมคนขับเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่ง ขสมก.จะรับนโยบายดังกล่าวมาดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่ ขสมก.ไม่สามารถยกเลิกสัญญาหรือถอนรถเมล์สายดังกล่าวได้ เนื่องจากหากมีการยกเลิกสัญญาก็จะกระทบกับการให้บริการประชาชน เพราะปัจจุบันรถเมล์ สาย 8 ให้บริการประชาชนถึ ง87 คัน วิ่งให้บริการวันละหลายร้อยเที่ยว และเป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้บริการกันในจำนวนมาก หากเลิกสัญญาหรือถอนรถออกไปทันทีโดยที่ไม่มีรถมาทดแทน คนที่จะลำบากก็คือประชาชน และขณะนี้ ขสมก.เองก็มีรถให้บริการน้อยอยู่แล้ว จึงต้องอาศัยรถร่วมฯ ในการให้บริการให้เพียงพอกับประชาชน ตนจึงเห็นว่าการลงโทษควรลงโทษที่ตัวบุคคลเป็นรายๆ ไป แต่ทั้งนี้หากพบว่าคนขับคนดังกล่าวกระทำความผิดอีกคงจะพิจารณาลงโทษด้วยการให้ออกไปในที่สุด
ทั้งนี้ หลังจากผู้ขับรถคันดังกล่าวได้เข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อสอบถามสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวคนขับรถได้ยอมรับว่าตนเองเกิดความประมาทจริงและได้รับความกดดันจากสังคมมากซึ่งหากไม่ลาออกก็จะปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น โดยหลังจากนายชัชชาติ ได้พูดคุยกับคนขับคนดังกล่าวแล้วได้มอบนโยบายให้กับ ขสมก.ดูแลในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยกำชับให้ให้มีการทำกล่องสำรวจคุณภาพการให้บริการรถร่วมเพิ่มเติม จากเดิมที่ดำเนินการในสาย 8 สายเดียว ให้ขยายไปยังสายอื่นที่มีสถิติการร้องเรียนสูง เพื่อเป็นการประเมินคนขับรถทุกคน รวมถึงการรับทราบปัญหาและหาทางป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นซ้ำรอย เนื่องจากจากกล่องแสดงความคิดเห็นของรถคันดังกล่าวที่เกิดอุบัติเหตุ ที่ ขสมก.ติดไว้เมื่อนำมาพิจารณาแล้ว มีผู้ร้องเรียนผ่านกล่องแสดงความคิดเห็นที่ติดบนรถคันดังกล่าวจากการให้บริการ 13 วัน พบว่าคนขับคนดังกล่าวขับรถแย่มากสูงถึง 44 คน ขับรถพอใช้ 56 คน และขับรถดี 72 คน ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถนำมาใช้ในการปรับการให้บริการและทราบประวัติการให้บริการของคนขับได้ดี อีกทั้งให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เพื่อทำการควบคุมดูแลรถให้มากขึ้นเพื่อเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุและเฝ้าระวังพฤติกรรมคนขับเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่ง ขสมก.จะรับนโยบายดังกล่าวมาดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
