อินเดีย ประเทศประชาธิปไตยที่ประชากรมากที่สุดในโลก ประกาศเมื่อวันพุธว่า กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วคือ วันที่ 7 เมษายน ใช้เวลาเลือกตั้งทั้งหมด 5 สัปดาห์ คาดว่าพรรคฝ่ายค้านภารติยะชนตะ (บีเจพี) มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้ง ส.ส.ของอินเดียจำนวน 543 ที่นั่ง จะมีขึ้นใน 9 เขตด้วยกัน ซึ่งจะดำเนินการไปถึงวันที่ 12 พฤษภาคม และจะเริ่มนับคะแนนกันอีก 4 วันต่อมา คือวันที่ 16 พฤษภาคม ชาวอินเดียที่มีสิทธิเลือกตั้งมีจำนวน 814 ล้านคน ตั้งแต่เทือกเขาหิมาลัย ที่ห่างไกลทางตอนเหนือไปจนถึงเขตร้อนชื้นทางใต้การเลือกตั้งครั้งนี้ มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มขึ้น 100 ล้านคน จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2552
คณะกรรมการการเลือกตั้งอินเดีย เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ การรักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่มีถึงเกือบ 1 ล้านหน่วย และรับมือกับอากาศที่ร้อนจัดของอินเดีย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง วี.เอส.ซัมพัธ ขอร้องนักการเมืองให้ปราศรัยด้วยมาตรฐานที่สูง และหาเสียงเลือกตั้งด้วยความขาวสะอาด
การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันกันในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างนเรนทรา โมดี มุขมนตรีแห่งรัฐคุชราตกับราหุล คานธี ทายาทของตระกูลคานธี ซึ่งพรรคคองเกรสได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาลมา 2 สมัยแล้ว
ราวี แชงการ์ ปราสาท ผู้นำอาวุโสคนหนึ่งของพรรคบีเจพี กล่าวว่า ประเทศต้องการการพัฒนา ความก้าวหน้า อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง และต้องการกำจัดคอร์รัปชันให้หมดไป
ส่วนโมดีเขียนในทวิตเตอร์ของเขาว่า ผลโพลที่ออกมาเป็นเหมือนแตรสัญญาณที่ดังกึกก้อง และขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ ที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศ นักการเมืองฝ่ายค้านวัย 63 ปีผู้นี้ชูนโยบายของพรรคในการลดการว่างงาน และพัฒนาประเทศหลังจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมาเกือบทศวรรษ อัตราเงินเฟ้อที่สูง และความยากจนที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ
ด้านกปิล สิบบัล ผู้นำคนหนึ่งของพรรคคองเกรส และรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสาร กล่าวว่า เราไม่เชื่อผลโพลที่ออกมา เพราะพรรคเราทำงานเพื่อประชาชน และมีผลงานมากมาย เราสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้น
คณะกรรมการการเลือกตั้งอินเดีย เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ การรักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่มีถึงเกือบ 1 ล้านหน่วย และรับมือกับอากาศที่ร้อนจัดของอินเดีย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง วี.เอส.ซัมพัธ ขอร้องนักการเมืองให้ปราศรัยด้วยมาตรฐานที่สูง และหาเสียงเลือกตั้งด้วยความขาวสะอาด
การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันกันในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างนเรนทรา โมดี มุขมนตรีแห่งรัฐคุชราตกับราหุล คานธี ทายาทของตระกูลคานธี ซึ่งพรรคคองเกรสได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาลมา 2 สมัยแล้ว
ราวี แชงการ์ ปราสาท ผู้นำอาวุโสคนหนึ่งของพรรคบีเจพี กล่าวว่า ประเทศต้องการการพัฒนา ความก้าวหน้า อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง และต้องการกำจัดคอร์รัปชันให้หมดไป
ส่วนโมดีเขียนในทวิตเตอร์ของเขาว่า ผลโพลที่ออกมาเป็นเหมือนแตรสัญญาณที่ดังกึกก้อง และขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ ที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศ นักการเมืองฝ่ายค้านวัย 63 ปีผู้นี้ชูนโยบายของพรรคในการลดการว่างงาน และพัฒนาประเทศหลังจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมาเกือบทศวรรษ อัตราเงินเฟ้อที่สูง และความยากจนที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ
ด้านกปิล สิบบัล ผู้นำคนหนึ่งของพรรคคองเกรส และรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสาร กล่าวว่า เราไม่เชื่อผลโพลที่ออกมา เพราะพรรคเราทำงานเพื่อประชาชน และมีผลงานมากมาย เราสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้น