นายจินดา บุญจันทร์ และนายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคมเพื่อการปฏิรูป (คชสป.) 29 เครือข่าย/กลุ่ม/องค์กร ออกแถลงการณ์เรื่องข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยระบุว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาชน อยู่ในปัจจุบัน จนหลายฝ่ายมีความห่วงใยว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงและสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ จึงได้พยายามหาทางออกร่วมกันโดย ใช้สถานการณ์นี้เป็นโอกาสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง โดยให้มีการปฏิรูปประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง ที่ทุกฝ่ายควรใช้กระแสการตื่นตัวทางการเมืองครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศโดยรวม
เครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคมเพื่อการปฏิรูป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยเฉพาะในระดับรากฐานของชุมชน ที่มีบทเรียนประสบการณ์การพัฒนา และการปฏิรูปมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี จึงได้จัดทำข้อเสนอเพื่อร่วมปฏิรูปประเทศ โดยยึดหลักให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง โดย ปฏิรูปโครงสร้างการเมืองการปกครอง/แก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีอำนาจอธิปไตย โดยเพิ่ม "สภาพลเมือง" เป็นอำนาจที่ 4 ถ่วงดุลกับอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ พร้อมกับแก้ไขสาระสำคัญต่างๆ คือ ให้ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค และเลือกจากกลุ่มอาชีพ รวมทั้งให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ส่วนอำนาจบริหาร ให้ยุบราชการส่วนภูมิภาค กระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น โดยมี พ.ร.บ.จังหวัดปกครองตนเอง ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และให้โอนอำนาจจัดการในด้านต่างๆ ไปยังจังหวัด เช่น การศึกษา การจัดการทรัพยากร การจัดสรรรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 รวมทั้งมีหน้าที่ในการออกข้อบัญญัติและแผนพัฒนาของตนเอง โดยส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาจังหวัด ปรับปรุงการบริหารราชการส่วนกลางให้คงเหลือเพียงงาน 4 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง ด้านต่างประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม และด้านการเงินการคลังของประเทศ
ขณะที่อำนาจตุลาการ เปลี่ยนวิธีพิจารณาความ จากกล่าวหา เป็นไต่สวน มีคณะลูกขุนและทนายท้องถิ่น มี พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม ตลอดจนแก้กฎหมายให้คดีทุจริตคอร์รัปชั่นไม่มีอายุความ และมีบทลงโทษที่หนักกว่าเดิม
ทางด้านสภาพลเมือง ซึ่งมีทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่นระดับจังหวัดและระดับชาติ โดยมีองค์ประกอบสมาชิกจากสองส่วนคือ ส่วนที่ 1 จากตัวแทนองค์กรที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ส่วนที่ 2 มาจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยให้สภาพลเมืองมีหน้าที่วางแผนพัฒนาและถ่วงดุลย์อำนาจ บริหาร
นอกจากนี้ มีข้อเสนอให้มีการปฏิรูปด้านที่ดิน จัดการทรัพยากรอื่นๆ โดยให้การจัดการทรัพยากรเป็นอำนาจของท้องถิ่นจังหวัด ส่วนปัญหาเฉพาะหน้าเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรงทุกรูปแบบทันที ให้รัฐบาลทำหน้าที่เป็นรัฐบาลของประชาชนทั้งประเทศ ใช้อำนาจหน้าที่และทรัพยากรทุกอย่างที่มี เพื่อคุ้มครองและมีมาตรการอย่างเข้มงวด ในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกฝ่าย และภาคส่วนอย่างเท่าเทียม เรียกร้องทุกฝ่ายในสังคมและคู่ขัดแย้ง ให้มีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งร่วมกันโดยเร็ว ก่อนนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนเครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคม พร้อมเข้าร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย ในขณะเดียวกัน เครือข่ายฯ จะเดินหน้าปฏิรูปทันทีโดยอาศัยบทเรียนและประสบการณ์การทำงานมากว่า 30 ปีที่ผ่านมาโดยจะดำเนินการขับเคลื่อนทันทีร่วมกับภาคีทุกภาคส่วนในทุกระดับพื้นที่
เครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคมเพื่อการปฏิรูป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยเฉพาะในระดับรากฐานของชุมชน ที่มีบทเรียนประสบการณ์การพัฒนา และการปฏิรูปมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี จึงได้จัดทำข้อเสนอเพื่อร่วมปฏิรูปประเทศ โดยยึดหลักให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง โดย ปฏิรูปโครงสร้างการเมืองการปกครอง/แก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีอำนาจอธิปไตย โดยเพิ่ม "สภาพลเมือง" เป็นอำนาจที่ 4 ถ่วงดุลกับอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ พร้อมกับแก้ไขสาระสำคัญต่างๆ คือ ให้ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค และเลือกจากกลุ่มอาชีพ รวมทั้งให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ส่วนอำนาจบริหาร ให้ยุบราชการส่วนภูมิภาค กระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น โดยมี พ.ร.บ.จังหวัดปกครองตนเอง ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และให้โอนอำนาจจัดการในด้านต่างๆ ไปยังจังหวัด เช่น การศึกษา การจัดการทรัพยากร การจัดสรรรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 รวมทั้งมีหน้าที่ในการออกข้อบัญญัติและแผนพัฒนาของตนเอง โดยส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาจังหวัด ปรับปรุงการบริหารราชการส่วนกลางให้คงเหลือเพียงงาน 4 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง ด้านต่างประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม และด้านการเงินการคลังของประเทศ
ขณะที่อำนาจตุลาการ เปลี่ยนวิธีพิจารณาความ จากกล่าวหา เป็นไต่สวน มีคณะลูกขุนและทนายท้องถิ่น มี พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม ตลอดจนแก้กฎหมายให้คดีทุจริตคอร์รัปชั่นไม่มีอายุความ และมีบทลงโทษที่หนักกว่าเดิม
ทางด้านสภาพลเมือง ซึ่งมีทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่นระดับจังหวัดและระดับชาติ โดยมีองค์ประกอบสมาชิกจากสองส่วนคือ ส่วนที่ 1 จากตัวแทนองค์กรที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ส่วนที่ 2 มาจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยให้สภาพลเมืองมีหน้าที่วางแผนพัฒนาและถ่วงดุลย์อำนาจ บริหาร
นอกจากนี้ มีข้อเสนอให้มีการปฏิรูปด้านที่ดิน จัดการทรัพยากรอื่นๆ โดยให้การจัดการทรัพยากรเป็นอำนาจของท้องถิ่นจังหวัด ส่วนปัญหาเฉพาะหน้าเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรงทุกรูปแบบทันที ให้รัฐบาลทำหน้าที่เป็นรัฐบาลของประชาชนทั้งประเทศ ใช้อำนาจหน้าที่และทรัพยากรทุกอย่างที่มี เพื่อคุ้มครองและมีมาตรการอย่างเข้มงวด ในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกฝ่าย และภาคส่วนอย่างเท่าเทียม เรียกร้องทุกฝ่ายในสังคมและคู่ขัดแย้ง ให้มีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งร่วมกันโดยเร็ว ก่อนนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนเครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคม พร้อมเข้าร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย ในขณะเดียวกัน เครือข่ายฯ จะเดินหน้าปฏิรูปทันทีโดยอาศัยบทเรียนและประสบการณ์การทำงานมากว่า 30 ปีที่ผ่านมาโดยจะดำเนินการขับเคลื่อนทันทีร่วมกับภาคีทุกภาคส่วนในทุกระดับพื้นที่
