นายอลงกรณ์ พลบุตร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างการประชุม "โครงสร้างใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์" ประธานสาขาพรรคฯ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ว่า หนทางเดียวที่ประชาธิปัตย์จะกลับมามีคะแนนนิยมสูงได้ จะต้องมีการปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ ทั้งโครงสร้าง ,ระบบบริหารจัดการ วัฒนธรรมองค์กร และวิธีคิดต่างๆและเป้าหมายของการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะปฏิรูปเพื่อนำไปสู่ชัยชนะ โดยต่อไปนี้พรรคประชาธิปัตย์จะต้องไม่แพ้อีกต่อไป
นายอลงกรณ์ กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิรูปพรรคเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรมีสถาบันประชาธิปัตย์ที่ทำหน้าที่เป็นสถาบันทางการเมืองคอยฝึกอบรมสมาชิก
นายอลงกรณ์ กล่าวย้ำว่า การปฏิรูปพรรคจะต้องปรับปรุงระบบบริหารจัดการการเลือกตั้ง และนโยบาย กำหนดโครงสร้างใหม่ ให้มีกรรมการกลางพรรค ให้มีกรรมการปฏิบัติการในพื้นที่ครอบคุลม 375 เขตเลือกตั้ง เพิ่มอำนาจให้กรรมการบริหารพรรค ซึ่งเชื่อว่าที่ประชุมใหญ่พรรคในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) จะเห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูปพรรค ซึ่งหากมีการปฏิรูปพรรคแล้วเชื่อมั่นว่าพรรคมีโอกาสได้รับชัยชนะและเป็นรัฐบาล
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ปีหน้า (2557) ว่าขึ้นอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจึงไม่ขอแสดงความเห็นส่วนตัว แต่เชื่อว่าการตัดสินใจลงเลือกตั้งหรือไม่ จะคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศส่วนรวม โดยพรรคต้องอธิบายเหตุผลในการตัดสินใจต่อสังคมได้ และที่สำคัญการจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนในการปฏิรูปประเทศ
นายอลงกรณ์ กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิรูปพรรคเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรมีสถาบันประชาธิปัตย์ที่ทำหน้าที่เป็นสถาบันทางการเมืองคอยฝึกอบรมสมาชิก
นายอลงกรณ์ กล่าวย้ำว่า การปฏิรูปพรรคจะต้องปรับปรุงระบบบริหารจัดการการเลือกตั้ง และนโยบาย กำหนดโครงสร้างใหม่ ให้มีกรรมการกลางพรรค ให้มีกรรมการปฏิบัติการในพื้นที่ครอบคุลม 375 เขตเลือกตั้ง เพิ่มอำนาจให้กรรมการบริหารพรรค ซึ่งเชื่อว่าที่ประชุมใหญ่พรรคในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) จะเห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูปพรรค ซึ่งหากมีการปฏิรูปพรรคแล้วเชื่อมั่นว่าพรรคมีโอกาสได้รับชัยชนะและเป็นรัฐบาล
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ปีหน้า (2557) ว่าขึ้นอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจึงไม่ขอแสดงความเห็นส่วนตัว แต่เชื่อว่าการตัดสินใจลงเลือกตั้งหรือไม่ จะคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศส่วนรวม โดยพรรคต้องอธิบายเหตุผลในการตัดสินใจต่อสังคมได้ และที่สำคัญการจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนในการปฏิรูปประเทศ