เมื่อเวลา 18.55 น. สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ มีการถ่ายทอดสดการออกแถลงการณ์รัฐบาล ทั้งนี้มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง อ่านแถลงการณ์ว่า
ตามที่พี่น้องประชาชน ทราบดีว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง บุกรุกสถานที่ราชการ ปัจจุบันบุกยึดสถานีโทรทัศน์ใช้กำลังประทุษร้ายบังคับให้ออกอากาศตามความต้องการของตน เข้ายึดสถานที่ราชการ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายดูแลความมั่นคง ขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า ตามที่นายสุเทพ แถลงว่ารัฐบาลไม่เคารพศพรัฐธรรมนูญกรณีแก้ไขที่มาของ ส.ว.นั้น ขอแจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลไม่เคยมีแถลงการณ์ใดๆ หรือมีการแสดงใดๆ ที่เป็นการไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่รัฐบาล
เรื่องร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ขอเรียนว่า ร่างพระราชบัญญัตินี้ ไม่ใช่ร่างของคณะรัฐมนตรี แต่เป็นร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นอำนาจนิติบัญญัติ แยกออกจากอำนาจฝ่ายบริหาร และขณะนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแน่นอนแล้วว่า วุฒิสภาไม่รับหลักการร่างฯ ฉบับนี้ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่สนับสนุนร่างฯ ฉบับนี้ต่อไป ถือได้ว่าร่างฯ ฉบับนี้ตกไป ไม่มีโอกาสบังคับใช้แน่นอนแล้ว
การที่นายสุเทพ บอกว่า ให้วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการนั้น ขอยืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้หน่วยงานราชการจะเปิดทำการตามปกติ และจากกรณีที่ขอให้สื่อโทรทัศน์เลิกการนำเสนอข่าวของรัฐบาล และให้นำมาเสนอเหตุการณ์ของการชุมนุมนั้น ขอเรียนว่า นายสุเทพไม่มีอำนาจรัฐตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ที่จะสั่งให้สื่อโทรทัศน์หยุดนำเสนอข่าวของรัฐบาลได้
และตามที่นายสุเทพ อ้างการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามมาตรา 69 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขอเรียนให้พี่น้องทราบว่า มาตรา 69 มีความดังนี้ "บุคคลมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ" คือการกระทำนั้นต้องเป็นการกระทำโดยสันติวิธี แต่วิธีการที่นายสุเทพ และการนำบุคคลอื่น นำมวลชนเข้ายึด พยายามเข้ายึดสถานที่ราชการ สถานีโทรทัศน์ หรือสถานที่ของรัฐบาลอื่นใด มิได้เป็นไปโดยสันติวิธี มีการใช้กำลัง พยายามพังผนังกั้นที่ทำด้วยปูน มีการขว้างระเบิดปิงปองเข้าไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัย และรัฐบาลชุดนี้ เข้ามาเป็นรัฐบาลโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ และรัฐบาลไม่ได้กระทำใดเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในทางตรงข้าม การดำเนินการที่กล่าวมาของนายสุเทพ ที่ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจบริหาร หรือให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ เป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบความผิดการเป็นกบฏ ตามมาตรา 113 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
กรณีความรุนแรงที่ถนนรามคำแหง และที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสืบทราบขยายผลในการเข้าจับกุมของผู้กระทำผิด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้บงการ และผู้กระทำความผิดได้ในไม่ช้า ขณะนี้ตำรวจได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า มีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีฝ่าย นปช.2 ราย และฝ่ายชุมนุมอีก 1 ราย และจากสถานการณ์ที่มีความรุนแรงในเขตพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น จากการสืบทราบของหน่วยข่าวกรอง และหน่วยงานความมั่นคง พบว่ามีความพยายามของกลุ่มบุคคลที่สาม ที่พยายามใช้สถานการณ์ดังกล่าวก่อความไม่สงบ โดยเชื่อว่าอาจมีการกระทำที่รุนแรง และอาจจะมีการใช้อาวุธที่เป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนและผู้ชุมนุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเกลียดชังต่อรัฐบาล และเพื่อเป็นการยกระดับสถานการณ์ ดังนั้น หลังเวลา 22.00-05.00 น.ของวันใหม่ หากไม่มีความจำเป็น ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ควรออกนอกเคหสถาน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลที่สามดังกล่าว
และรัฐบาลขอประกาศว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ดี รัฐบาลมีความปรารถนาดีที่จะรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราทุกคนจะหันหน้าเข้ามาปรึกษาหารือ และเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน
จึงกราบเรียนมาเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจ และมีความสบายใจว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของพี่น้องประชาชนทุกคน ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจด้วยการรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย โดยยึดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง
รัฐบาลขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า จะทำหน้าที่ในการปกป้องพี่น้องประชาชน และจะนำมาซึ่งความปกติสุขโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนได้มีความพร้อมที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ตามที่พี่น้องประชาชน ทราบดีว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง บุกรุกสถานที่ราชการ ปัจจุบันบุกยึดสถานีโทรทัศน์ใช้กำลังประทุษร้ายบังคับให้ออกอากาศตามความต้องการของตน เข้ายึดสถานที่ราชการ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายดูแลความมั่นคง ขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า ตามที่นายสุเทพ แถลงว่ารัฐบาลไม่เคารพศพรัฐธรรมนูญกรณีแก้ไขที่มาของ ส.ว.นั้น ขอแจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลไม่เคยมีแถลงการณ์ใดๆ หรือมีการแสดงใดๆ ที่เป็นการไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่รัฐบาล
เรื่องร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ขอเรียนว่า ร่างพระราชบัญญัตินี้ ไม่ใช่ร่างของคณะรัฐมนตรี แต่เป็นร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นอำนาจนิติบัญญัติ แยกออกจากอำนาจฝ่ายบริหาร และขณะนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแน่นอนแล้วว่า วุฒิสภาไม่รับหลักการร่างฯ ฉบับนี้ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่สนับสนุนร่างฯ ฉบับนี้ต่อไป ถือได้ว่าร่างฯ ฉบับนี้ตกไป ไม่มีโอกาสบังคับใช้แน่นอนแล้ว
การที่นายสุเทพ บอกว่า ให้วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการนั้น ขอยืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้หน่วยงานราชการจะเปิดทำการตามปกติ และจากกรณีที่ขอให้สื่อโทรทัศน์เลิกการนำเสนอข่าวของรัฐบาล และให้นำมาเสนอเหตุการณ์ของการชุมนุมนั้น ขอเรียนว่า นายสุเทพไม่มีอำนาจรัฐตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ที่จะสั่งให้สื่อโทรทัศน์หยุดนำเสนอข่าวของรัฐบาลได้
และตามที่นายสุเทพ อ้างการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามมาตรา 69 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขอเรียนให้พี่น้องทราบว่า มาตรา 69 มีความดังนี้ "บุคคลมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ" คือการกระทำนั้นต้องเป็นการกระทำโดยสันติวิธี แต่วิธีการที่นายสุเทพ และการนำบุคคลอื่น นำมวลชนเข้ายึด พยายามเข้ายึดสถานที่ราชการ สถานีโทรทัศน์ หรือสถานที่ของรัฐบาลอื่นใด มิได้เป็นไปโดยสันติวิธี มีการใช้กำลัง พยายามพังผนังกั้นที่ทำด้วยปูน มีการขว้างระเบิดปิงปองเข้าไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัย และรัฐบาลชุดนี้ เข้ามาเป็นรัฐบาลโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ และรัฐบาลไม่ได้กระทำใดเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในทางตรงข้าม การดำเนินการที่กล่าวมาของนายสุเทพ ที่ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจบริหาร หรือให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ เป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบความผิดการเป็นกบฏ ตามมาตรา 113 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
กรณีความรุนแรงที่ถนนรามคำแหง และที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสืบทราบขยายผลในการเข้าจับกุมของผู้กระทำผิด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้บงการ และผู้กระทำความผิดได้ในไม่ช้า ขณะนี้ตำรวจได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า มีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีฝ่าย นปช.2 ราย และฝ่ายชุมนุมอีก 1 ราย และจากสถานการณ์ที่มีความรุนแรงในเขตพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น จากการสืบทราบของหน่วยข่าวกรอง และหน่วยงานความมั่นคง พบว่ามีความพยายามของกลุ่มบุคคลที่สาม ที่พยายามใช้สถานการณ์ดังกล่าวก่อความไม่สงบ โดยเชื่อว่าอาจมีการกระทำที่รุนแรง และอาจจะมีการใช้อาวุธที่เป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนและผู้ชุมนุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเกลียดชังต่อรัฐบาล และเพื่อเป็นการยกระดับสถานการณ์ ดังนั้น หลังเวลา 22.00-05.00 น.ของวันใหม่ หากไม่มีความจำเป็น ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ควรออกนอกเคหสถาน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลที่สามดังกล่าว
และรัฐบาลขอประกาศว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ดี รัฐบาลมีความปรารถนาดีที่จะรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราทุกคนจะหันหน้าเข้ามาปรึกษาหารือ และเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน
จึงกราบเรียนมาเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจ และมีความสบายใจว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของพี่น้องประชาชนทุกคน ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจด้วยการรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย โดยยึดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง
รัฐบาลขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า จะทำหน้าที่ในการปกป้องพี่น้องประชาชน และจะนำมาซึ่งความปกติสุขโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนได้มีความพร้อมที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน