xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจยื่นขอหมายจับ “สุเทพ” พาม็อบบุกกระทรวงการคลัง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบช.น.
รอง ผบช.น.ขอศาลออกหมายจับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” นำม็อบบุกกระทรวงการคลัง ข้อหายั่วยุปลุกปั่น-มั่วสุม 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง



เมื่อเวลา 10.40 น.วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบช.น. เดินทางมายื่นคำร้องขอศาลอออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ใน 2 คดี คดีแรก ท้องที่ สน.บางซื่อ จากกรณีปิดล้อมสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ถ.พระราม 6 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ( 3) ข้อหาผู้ใดกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชม โดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี, มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด หรือใช้อาวุธ และเป็นผู้สั่งการหรือเป็นหัวหน้า ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท, มาตรา 365 ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่ 2 เกิดขึ้นในท้องที่ สน.สำราญราษฎร์ ในการชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง กล่าวหาว่านายสุเทพกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3) และมาตรา 117 ผู้ใดยุยงให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใดๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อบังคับรัฐบาลหรือข่มขู่ประชาชน โดยทราบความมุ่งหมายดังกล่าว และเข้ามีส่วนหรือเข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน และใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือทำให้หวาดกลัวด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลเข้ามีส่วนหรือมีส่วนในการเข้าร่วมกันหยุด มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับ 6,000 บาท ถึง 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สามารถขอศาลอนุมัติหมายจับนายสุเทพเพียงคนเดียว เนื่องจากพยานหลักฐานชัดเจน ส่วนแกนนำรายอื่นๆ อยู่ระหว่างรวบรวบพยานหลักฐาน ทั้งนี้ หากศาลจะทำการไต่สวนการขอหมายจับ พนักงานสอบสวนได้เตรียมหลักฐานการชุมนุมของนายสุเทพเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจประกอบการพิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น. นายเจษฏา อนุจารี ทนายความ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ ได้เดินทางมาคัดค้านการออกหมายจับ โดยกล่าวว่า ตนได้ยื่นคำร้องคัดค้านการออกหมายจับ โดยขั้นตอนก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล หากศาลอนุญาตให้ไต่สวนพยานก็ได้ นายถาวร เสนเนียม และ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นไต่สวนเป็นพยาน

นายถาวร กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในการชุมนุมยังไม่เข้าข่ายความผิดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา โดยการเข้าไปในพื้นกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้บุกรุกเข้าไป แต่พี่น้องประชาชนที่อยู่ในกระทรวงการคลังเปิดประตูต้อนรับกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไป และผู้ชุมนุมก็ไม่ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ หรือทำลายข้าวของในสถานที่ราชการ นอกจากนี้เห็นว่ายังไม่ลักษณะการออกหมายจับ ซึ่งการขออกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กระทำโดยผิดขั้นตอน เพราะการออกหมายจับนั้นจะต้องออกหมายเรียกก่อน 2 ครั้ง แต่หากเป็นลักษณะนี้ก็ถามกลับไปที่รัฐบาลและตำรวจ กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน มีการชุมนุมลักษณะทางการเมืองเช่นกันและมีการมั่วสุมกันเกินกว่า 10 คนขึ้นไป ทำไมตำรวจไม่ออกหมายจับ แกนนำ นปช. ถือเป็นการกระทำที่สองมาตรฐาน

ด้านวิทยา กล่าวว่า ทนายความได้ประสานให้เดินทางมาเป็นพยาน ซึ่งหากศาลให้ไต่ส่วนหมายจับ ก็จะชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ในการชุมนุมยังไม่ได้กระทำผิดตามที่ตำรวจกล่าวหา ล่าสุดศาลได้เิปิดห้องพิจารณาเพื่อไต่สวนหมายจับแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น