นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ ได้มอบหมายให้ตน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค และนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กรุงเทพมหานคร เข้ายื่นหนังสือต่อ ศอ.รส. เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ศอ.รส.รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตองเรง่หาทางยับยั้งสั่งการไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในทุกกรณี อย่าหลบอยู่ในบ้านเป็นอีแอบ และขอให้ ศอ.รส.อย่าบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง
นายองอาจ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถานการณ์จะไม่บานปลายหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งระงับเหตุอย่างทันท่วงที แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่หย่อนยานมาก กลับคุ้มครองอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเพียงฝ่ายเดียว และมีภาพปราฏทางสถานีโทรทัศน็์หลายสถานีว่าการยิง การใช้อาวุธ น่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เห็นเป็นใจ นำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่
อีกทั้งยังได้ทราบมาจากสำนักข่าวต่างประเทศ ว่า ก่อนหน้านี้มีคนของภาครัฐประสานไปยังสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ให้ติดตามรายงานข่าวคนเสื้อแดงที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นพิเศษ ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวต่างรู้สึกผิดปกติ ว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณให้ทราบหรือไม่ว่าน่าจะเกิดเหตุรุนแรง เพื่อเผยแพร่ข่าวให้คนที่จะเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่กล้าออกจากบ้าน ซึ่งถือเป็นวิชามารรูปแบบหนึ่งเพื่อรักษาอำนาจตัวเอง
นอกจากนี้ หลังจากกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณเคลื่อนไปตามจุดต่างๆ ศอ.รส.กลับเป็นตัวการขยายความรุนแรง เพราะมีการแถลงบิดเบือนความจริง ว่าสาเหตุที่ต้องยิงแก๊สน้ำตา เพราะผู้ชุมนุมพยายามปาระเบิดปิงปองเข้าไป ซึ่ง ศอ.รส.ใช้คำว่าพยายาม เท่ากับว่ายังไม่มีการปาเข้าไป จึงถือว่าผู้ชุมนุมยังไม่ได้กระทำผิด อีกทั้งยังพยายามทำลายความชอบธรรมของผู้ชุมนุม อ้างว่าผู้ชุมนุมใช้เด็ก ผู้หญิง และคนชรา นำหน้าเป็นโล่กำบังแกนนำ ซึ่งไม่เป็นความจริง
นายองอาจ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถานการณ์จะไม่บานปลายหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งระงับเหตุอย่างทันท่วงที แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่หย่อนยานมาก กลับคุ้มครองอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเพียงฝ่ายเดียว และมีภาพปราฏทางสถานีโทรทัศน็์หลายสถานีว่าการยิง การใช้อาวุธ น่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เห็นเป็นใจ นำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่
อีกทั้งยังได้ทราบมาจากสำนักข่าวต่างประเทศ ว่า ก่อนหน้านี้มีคนของภาครัฐประสานไปยังสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ให้ติดตามรายงานข่าวคนเสื้อแดงที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นพิเศษ ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวต่างรู้สึกผิดปกติ ว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณให้ทราบหรือไม่ว่าน่าจะเกิดเหตุรุนแรง เพื่อเผยแพร่ข่าวให้คนที่จะเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่กล้าออกจากบ้าน ซึ่งถือเป็นวิชามารรูปแบบหนึ่งเพื่อรักษาอำนาจตัวเอง
นอกจากนี้ หลังจากกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณเคลื่อนไปตามจุดต่างๆ ศอ.รส.กลับเป็นตัวการขยายความรุนแรง เพราะมีการแถลงบิดเบือนความจริง ว่าสาเหตุที่ต้องยิงแก๊สน้ำตา เพราะผู้ชุมนุมพยายามปาระเบิดปิงปองเข้าไป ซึ่ง ศอ.รส.ใช้คำว่าพยายาม เท่ากับว่ายังไม่มีการปาเข้าไป จึงถือว่าผู้ชุมนุมยังไม่ได้กระทำผิด อีกทั้งยังพยายามทำลายความชอบธรรมของผู้ชุมนุม อ้างว่าผู้ชุมนุมใช้เด็ก ผู้หญิง และคนชรา นำหน้าเป็นโล่กำบังแกนนำ ซึ่งไม่เป็นความจริง