“องอาจ” เผย หน.ปชป.มอบหมายให้ยื่น ศอ.รส.บี้ รับผิดชอบพร้อมนายกฯต่อเหตุการณ์ สั่ง ตร.เลิกรุนแรง และเลิกบิดเบือนข้อเท็จจริงป้ายสี ปชช.เหตุยิงแก๊สน้ำตา ชี้ที่รามฯ ตร.รู้เห็นแดงใช้อาวุธปะทะ นศ.และมีการสะกิดนักข่าว ตปท.รอทำข่าว ฉะ ใช้วิชามาร
วันนี้ (1 ธ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ตน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค และนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.เข้ายื่นหนังสือต่อ ศอ.รส.เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ ศอ.รส.รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเร่งหาทางยับยั้ง สั่งการไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในทุกกรณี อย่าหลบอยู่ในบ้านเป็นอีแอบเพียงอย่างเดียว ขอให้ ศอ.รส.อย่าบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง
นายองอาจ กล่าวอีกว่า จากความรุนแรงที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถานการณ์จะไม่บานปลาย ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งระงับเหตุการณ์อย่างทันท่วงที แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่หย่อนยานมาก คุ้มครอง อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนามกีฬาราชมังคลาแต่เพียงฝ่ายเดียว และมีภาพปรากฏทางสถานีโทรทัศน์หลายสถานีว่าการยิง การใช้อาวุธน่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เห็นเป็นใจนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ อีกทั้งยังได้ทราบมาจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า ก่อนหน้านี้มีคนของภาครัฐประสานไปยังสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ให้ติดตามรายงานข่าวคนเสื้อแดงที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นพิเศษ ซึงสำนักข่าวดังกล่าวต่างรู้สึกผิดปกติ อาจเป็นการส่งสัญญาณให้ทราบหรือไม่ว่าน่าจะเกิดเหตุรุนแรง เพื่อเผยแพร่ข่าวให้คนที่จะเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่กล้าออกจากบ้าน ถือเป็นวิชามารรูปแบบหนึ่งในการรักษาอำนาจตัวเอง
นายองอาจ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้หลังจากกลุ่มผู้ต่อต้านระบอบทักษิณ เคลื่อนไปตามจุดต่างๆ ศอ.รส.กลับเป็นตัวการขยายความรุนแรง เพราะมีการแถลงบิดเบือนความจริงว่าสาเหตุที่ต้องยิงแก๊สน้ำตา เพราะผู้ชุมนุมพยายามปาระเบิดปิงปองเข้าไป ซึ่ง ศอ.รส.ใช้คำว่าพยายาม เท่ากับว่ายังไม่มีการปาเข้าไป จึงถือว่าผู้ชุมนุมยังไม่ได้กระทำผิด อีกทั้งยังพยายามทำลายความชอบธรรมของผู้ชุมนุม อ้างว่าผู้ชุมนุมใช้เด็ก ผู้หญิง และคนชรา นำหน้าเป็นโล่กำบังแกนนำ ซึ่งไม่เป็นความจริง
