นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ดูแลรับผิดชอบในแต่ละสำนวน และแต่ละศพทั้ง 13 ศพ ที่ศาลมีคำสั่งคดีแล้ว และสำนวนได้ถูกส่งกลับมายังดีเอสไอ ให้รีบดำเนินการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ ว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่ หากพบว่ายังขาดประเด็นใดก็ให้รีบดำเนินการโดยเร็ว โดยให้ยึดแนวทางคดีนายพัน คำกอง และ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ ที่ทางอัยการสูงสุดได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว
ส่วนกรณีที่พนักงานอัยการมองว่าคดีดังกล่าวเป็นการออกคำสั่งครั้งเดียว จึงมีความผิดกรรมเดียวนั้นตนเคารพในความเห็นของอัยการ และยังคงยืนยันตามเดิมว่าพนักงานสอบสวนจะยังคงดำเนินการแยกสำนวนคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล และข้อหาพยายามฆ่าส่งอัยการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ หากว่าสำนวนคดีทั้ง 13 ศพ ถูกส่งถึงมืออัยการแล้ว ทางอัยการมีความเห็นว่าควรนำไปรวมกัน ก็ต้องเคารพในความเห็นนั้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีกลุ่มผู้บาดเจ็บซึ่งได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพฯ ในข้อหาพยายามฆ่านั้นทราบว่ามีมากกว่า 1,000 ราย ซึ่ง พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า คดี 99 ศพ ในเหตุการณ์ความรุนแรงปี 53 นั้น พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งคนตายและบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนดีเอสไอก็ได้ส่งสำนวนชันสูตรไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อไต่สวนจำนวน 52 คดี หลังตรวจพบพยานหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าผู้เสียชีวิตกลุ่มนี้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนั้น ก่อนที่สำนวนจะถึงมืออัยการและศาล จนกระทั่งศาลมีคำสั่งคดี ซึ่งคำสั่งดังกล่าวศาลได้ส่งกลับมายังดีเอสไอขณะนี้จำนวน 13 ศพ และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมและตรวจสอบคำสั่งศาล ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาตรวจสอบระยะหนึ่ง เนื่องจากในแต่ละสำนวนทั้ง 13 ศพ ที่เหลือนี้หลักฐานค่อนข้างเยอะ และหากสำนวนหรือศพใดเสร็จสิ้นก็จะสรุปรายงานต่อไปยังอธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้พิจารณาในขั้นตอนต่อไป
ส่วนกรณีที่พนักงานอัยการมองว่าคดีดังกล่าวเป็นการออกคำสั่งครั้งเดียว จึงมีความผิดกรรมเดียวนั้นตนเคารพในความเห็นของอัยการ และยังคงยืนยันตามเดิมว่าพนักงานสอบสวนจะยังคงดำเนินการแยกสำนวนคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล และข้อหาพยายามฆ่าส่งอัยการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ หากว่าสำนวนคดีทั้ง 13 ศพ ถูกส่งถึงมืออัยการแล้ว ทางอัยการมีความเห็นว่าควรนำไปรวมกัน ก็ต้องเคารพในความเห็นนั้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีกลุ่มผู้บาดเจ็บซึ่งได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพฯ ในข้อหาพยายามฆ่านั้นทราบว่ามีมากกว่า 1,000 ราย ซึ่ง พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า คดี 99 ศพ ในเหตุการณ์ความรุนแรงปี 53 นั้น พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งคนตายและบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนดีเอสไอก็ได้ส่งสำนวนชันสูตรไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อไต่สวนจำนวน 52 คดี หลังตรวจพบพยานหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าผู้เสียชีวิตกลุ่มนี้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนั้น ก่อนที่สำนวนจะถึงมืออัยการและศาล จนกระทั่งศาลมีคำสั่งคดี ซึ่งคำสั่งดังกล่าวศาลได้ส่งกลับมายังดีเอสไอขณะนี้จำนวน 13 ศพ และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมและตรวจสอบคำสั่งศาล ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาตรวจสอบระยะหนึ่ง เนื่องจากในแต่ละสำนวนทั้ง 13 ศพ ที่เหลือนี้หลักฐานค่อนข้างเยอะ และหากสำนวนหรือศพใดเสร็จสิ้นก็จะสรุปรายงานต่อไปยังอธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้พิจารณาในขั้นตอนต่อไป
