ผู้ชนะรางวัลโนเบลด้านการแพทย์เตือนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ กำลังตกอยู่ในอันตราย จากปัญหางบสนับสนุนงานวิจัยถูกตัด และความท้าทายเชิงอุดมการณ์
นักวิจัยอเมริกันเหล่านี้คว้ารางวัลโนเบลจากผลงานการค้นพบวิธีการที่เซลล์จัดระเบียบและเคลื่อนย้ายโมเลกุล ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้ร่างกายและสมองทำงานเป็นปกติ อีกทั้งยังเป็นรากเง่าของบรรดาโรคระบบประสาท เบาหวาน และภูมิคุ้มกันผิดปกติ
แม้ยินดีกับรางวัลที่ได้รับ แต่คำแถลงของผู้ชนะทั้งสามกลับสะท้อนความกังวลสำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่
เจมส์ รอธแมน วัย 63 ปี จากมหาวิทยาลัยเยล หนึ่งในผู้ชนะ บอกว่า เขาตกใจมากเมื่อได้รู้ว่า การวิจัยสมัยนี้หาทุนสนับสนุนได้ยากเย็นเพียงใด ทั้งนี้เขามุ่งพาดพิงถึงการที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นไอเอช) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงานวิจัยรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ถูกตัดงบประมาณ
รอธแจกแจงว่า แต่ละปีเอ็นไอเอชจะแจกทุนวิจัยราว 31,000 ล้านดอลลาร์ แต่การถูกตัดงบประมาณส่งผลให้ทุนเหล่านั้นถูกตัดลงด้วยเช่นกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหากคำนวณอัตราเงินเฟ้อร่วมด้วย มูลค่าทุนสำหรับการวิจัยยิ่งลดลงไปอีก
พวกเจ้าหน้าที่เอ็นไอเอชขานรับว่า ขณะนี้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้มีผู้สมัครเพียง 16-17% เท่านั้นที่ได้รับทุน จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 30%
รอธแมนสำทับว่า เขากังวลเกี่ยวกับทุนสนับสนุนวิจัยดังกล่าวนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการตัดงบประมาณที่สืบเนื่องจากมาตรการลดงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลแบบเหมารวมอัตโนมัติเมื่อต้นปี หรือวิกฤตปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่งในขณะนี้
เขายังสงสัยว่า เขาจะสามารถสร้างผลงานได้แบบนี้หรือไม่ หากอยู่ภายใต้สถานการณ์งบประมาณตึงตัวเช่นปัจจุบัน
“เราต้องใส่ใจกับปัญหานี้ หากต้องการรักษาฐานะการเป็นผู้นำในการแข่งขันของประเทศในด้านนี้ไว้”
นักวิจัยอเมริกันเหล่านี้คว้ารางวัลโนเบลจากผลงานการค้นพบวิธีการที่เซลล์จัดระเบียบและเคลื่อนย้ายโมเลกุล ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้ร่างกายและสมองทำงานเป็นปกติ อีกทั้งยังเป็นรากเง่าของบรรดาโรคระบบประสาท เบาหวาน และภูมิคุ้มกันผิดปกติ
แม้ยินดีกับรางวัลที่ได้รับ แต่คำแถลงของผู้ชนะทั้งสามกลับสะท้อนความกังวลสำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่
เจมส์ รอธแมน วัย 63 ปี จากมหาวิทยาลัยเยล หนึ่งในผู้ชนะ บอกว่า เขาตกใจมากเมื่อได้รู้ว่า การวิจัยสมัยนี้หาทุนสนับสนุนได้ยากเย็นเพียงใด ทั้งนี้เขามุ่งพาดพิงถึงการที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นไอเอช) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงานวิจัยรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ถูกตัดงบประมาณ
รอธแจกแจงว่า แต่ละปีเอ็นไอเอชจะแจกทุนวิจัยราว 31,000 ล้านดอลลาร์ แต่การถูกตัดงบประมาณส่งผลให้ทุนเหล่านั้นถูกตัดลงด้วยเช่นกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหากคำนวณอัตราเงินเฟ้อร่วมด้วย มูลค่าทุนสำหรับการวิจัยยิ่งลดลงไปอีก
พวกเจ้าหน้าที่เอ็นไอเอชขานรับว่า ขณะนี้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้มีผู้สมัครเพียง 16-17% เท่านั้นที่ได้รับทุน จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 30%
รอธแมนสำทับว่า เขากังวลเกี่ยวกับทุนสนับสนุนวิจัยดังกล่าวนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการตัดงบประมาณที่สืบเนื่องจากมาตรการลดงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลแบบเหมารวมอัตโนมัติเมื่อต้นปี หรือวิกฤตปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่งในขณะนี้
เขายังสงสัยว่า เขาจะสามารถสร้างผลงานได้แบบนี้หรือไม่ หากอยู่ภายใต้สถานการณ์งบประมาณตึงตัวเช่นปัจจุบัน
“เราต้องใส่ใจกับปัญหานี้ หากต้องการรักษาฐานะการเป็นผู้นำในการแข่งขันของประเทศในด้านนี้ไว้”