นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเนื่องในวันครบรอบ 7 ปี การปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ว่า ประชาชนทุกคนได้เห็นบทเรียนจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ที่ผ่่านมาแล้ว ว่าสร้างความสูญเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศและระบอบประชาธิปไตยของไทย ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ในส่วนกลไกของระบอบประชาธิปไตย พบว่าการแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด คือการแก้ไขด้วยกลไกของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการปกครองระบอบเดียวที่ให้อำนาจกับประชาชนตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการปกครองได้ ขณะที่ระบบการปกครองลักษณะอื่น ไม่มีระบบการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เหมือนกับระบอบประชาธิปไตย ที่สำคัญปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางแนวทางระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น และปฏิเสธไม่ยอมรับประเทศที่ไม่มีระบอบประชาธิปไตย หรือยังมีการรัฐประหาร ซึ่งดูจากผลกระทบของไทยเมื่อรัฐประหารปี 2549 ไม่ได้รับความร่วมมือและติดต่อเจรจาระหว่างกัน จากประเทศต่างๆ แต่เมื่อไทยกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ทำให้ทุกประเทศเริ่มหันมาให้การตอบรับมากขึ้น นำไปสู่การเจรจาด้านต่างๆ กับต่างประเทศ จึงอยากให้บุคคลบางกลุ่ม หยุดการกระทำใดๆ ที่จะกระทบระบอบประชาธิปไตยของประเทศ และขอให้นำบทเรียนการรัฐประหาร 7 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนสำคัญและเตือนใจคนไทยทุกคน ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ปฏิเสธระบอบการปกครองระบบอื่น
นายพงษ์เทพ ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้ประชาชนจำนวนมากมีความตื่นตัวทางการเมือง และต่อต้านระบบการปกครองที่ไม่ใช่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็งมากขึ้น หลังจากเกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2549 และเชื่อว่าจะไม่เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต
นายพงษ์เทพ ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้ประชาชนจำนวนมากมีความตื่นตัวทางการเมือง และต่อต้านระบบการปกครองที่ไม่ใช่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็งมากขึ้น หลังจากเกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2549 และเชื่อว่าจะไม่เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต