รายงานข่าวจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าผันผวน โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.20 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยหลักมาจากกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย หลังทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ ซึ่งมีวาระสำคัญเช่น ความเป็นไปได้ในการเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ และความชัดเจนต่อมาตรการคิวอี รวมทั้งสถานการณ์ซีเรียที่ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศในรอบสัปดาห์ เช่น ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนกันยายน ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดขายบ้านมือสอง ยอดการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนสิงหาคม ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินเดือนกรกฎาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-13 ก.ย.) เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 31.60 บาทต่อดอลลาร์ และปิดตลาดปลายสัปดาห์เมื่อวันที่ 13 กันยายน อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.85 บาทต่อดอลลาร์ หลังได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร เนื่องจากคลายความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในซีเรีย
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากเงินดอลลาร์ที่ถูกกดดันจากคาดการณ์เฟดทอนมาตรการคิวอีในระดับที่ไม่สูงนัก
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศในรอบสัปดาห์ เช่น ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนกันยายน ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดขายบ้านมือสอง ยอดการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนสิงหาคม ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินเดือนกรกฎาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-13 ก.ย.) เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 31.60 บาทต่อดอลลาร์ และปิดตลาดปลายสัปดาห์เมื่อวันที่ 13 กันยายน อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.85 บาทต่อดอลลาร์ หลังได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร เนื่องจากคลายความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในซีเรีย
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากเงินดอลลาร์ที่ถูกกดดันจากคาดการณ์เฟดทอนมาตรการคิวอีในระดับที่ไม่สูงนัก