พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาศาลอาญารัชดา เพื่อขึ้นเบิกความคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ร่วมกับครอบครัวของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม พร้อม พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และจ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ร่วมกันเป็นเป็นจำเลยที่ 1-5 ในคดีร่วมกันอุ้มฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี
โดย พล.ต.ท.สมคิด ขึ้นเบิกความยืนยันต่อศาล ว่าคำเบิกความของพ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานปากสำคัญที่ได้เบิกความที่ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ที่ลงบันทึกไว้ว่า พล.ต.ท.สมคิด เป็นผู้สั่งการให้จำเลยคนอื่นๆ ในคดีนี้ อุ้มนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี ไปสอบสวน กักขังไว้โดยใช้โซ่ล่ามคอที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนจะฆ่าและเผาทำลายศพที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นความเท็จทั้งสิ้น พร้อมยืนยันด้วยว่า ไม่เคยพบกับ พ.ต.ท.สุวิชชัย และไม่เคยสั่งการให้ไปฆ่าคนตาย
ส่วนการที่ พ.ต.ท.สุวิชชัย บันทึกอ้างว่าได้รับแหวนทองของนายนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี จาก พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี จำเลยที่ 4 ในคดีนี้ เมื่อปี 2546 เพื่อนำมามอบให้กับญาติของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี แต่กลับนำมามอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากขณะนั้น พ.ต.ท.สุวิชชัย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำมีนบุรี ในคดีฆ่าผู้อื่น
พล.ต.ท.สมคิด ยังยืนยันด้วยว่า คำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชชัย 3 ครั้ง ในปี 2545 ปี 2549 และปี2556 มีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถเชื่อถือได้
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) ศาลนัดสืบพยานต่ออีกคนและจะสืบต่อเนื่องไป วันที่ 26 กันยายน วันที่ 8 ตุลาคม และวันที่ 16 ตุลาคม 2556นี้
โดย พล.ต.ท.สมคิด ขึ้นเบิกความยืนยันต่อศาล ว่าคำเบิกความของพ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานปากสำคัญที่ได้เบิกความที่ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ที่ลงบันทึกไว้ว่า พล.ต.ท.สมคิด เป็นผู้สั่งการให้จำเลยคนอื่นๆ ในคดีนี้ อุ้มนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี ไปสอบสวน กักขังไว้โดยใช้โซ่ล่ามคอที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนจะฆ่าและเผาทำลายศพที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นความเท็จทั้งสิ้น พร้อมยืนยันด้วยว่า ไม่เคยพบกับ พ.ต.ท.สุวิชชัย และไม่เคยสั่งการให้ไปฆ่าคนตาย
ส่วนการที่ พ.ต.ท.สุวิชชัย บันทึกอ้างว่าได้รับแหวนทองของนายนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี จาก พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี จำเลยที่ 4 ในคดีนี้ เมื่อปี 2546 เพื่อนำมามอบให้กับญาติของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี แต่กลับนำมามอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากขณะนั้น พ.ต.ท.สุวิชชัย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำมีนบุรี ในคดีฆ่าผู้อื่น
พล.ต.ท.สมคิด ยังยืนยันด้วยว่า คำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชชัย 3 ครั้ง ในปี 2545 ปี 2549 และปี2556 มีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถเชื่อถือได้
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) ศาลนัดสืบพยานต่ออีกคนและจะสืบต่อเนื่องไป วันที่ 26 กันยายน วันที่ 8 ตุลาคม และวันที่ 16 ตุลาคม 2556นี้