หลังจากการหารืออย่างเคร่งเครียดนานถึง 12 ชั่วโมง นายวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ประกาศว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอาวุธต่อกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย แต่จะยังคงใช้มาตรการดังกล่าวกับรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลซีเรีย ซึ่งรวมถึงการอายัดทรัพย์ประธานาธิบดีอัสซาด และเครือญาติ การห้ามค้าน้ำมัน และการทำธุรกรรมทางการเงิน จะหมดอายุลงในช่วงเที่ยงคืนของวันศุกร์นี้ คาดว่าการส่งอาวุธให้ฝ่ายต่อต้านในซีเรียอาจจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาสันติภาพ ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนมิถุนายนนี้ เสียก่อน โดยแต่ละประเทศสมาชิกอียูจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะจัดส่งอาวุธให้ฝ่ายต่อต้านหรือไม่ แต่ทุกประเทศต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของอียูในการส่งออกอาวุธอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ได้หารือกันที่กรุงปารีสถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาสันติภาพซีเรีย โดยสหรัฐฯ และรัสเซียประกาศจุดยืนร่วมกันในการยุติสงครามซีเรียอย่างสันติ ขณะที่จีนก็ประกาศว่าจะร่วมมือในแผนสันติภาพนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลซีเรีย ซึ่งรวมถึงการอายัดทรัพย์ประธานาธิบดีอัสซาด และเครือญาติ การห้ามค้าน้ำมัน และการทำธุรกรรมทางการเงิน จะหมดอายุลงในช่วงเที่ยงคืนของวันศุกร์นี้ คาดว่าการส่งอาวุธให้ฝ่ายต่อต้านในซีเรียอาจจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาสันติภาพ ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนมิถุนายนนี้ เสียก่อน โดยแต่ละประเทศสมาชิกอียูจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะจัดส่งอาวุธให้ฝ่ายต่อต้านหรือไม่ แต่ทุกประเทศต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของอียูในการส่งออกอาวุธอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ได้หารือกันที่กรุงปารีสถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาสันติภาพซีเรีย โดยสหรัฐฯ และรัสเซียประกาศจุดยืนร่วมกันในการยุติสงครามซีเรียอย่างสันติ ขณะที่จีนก็ประกาศว่าจะร่วมมือในแผนสันติภาพนี้เช่นกัน