นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีกากของเสียอุตสาหกรรมในภาพรวมปีละกว่า 44.8 ล้านตัน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นกากอุตสาหกรรมที่ไม่อันตราย 42 ล้านตัน และกากอุตสาหกรรมอันตราย 2.8 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม มีการส่งใบกำกับการขนย้ายกากของเสียออกจากโรงงานมายังกรมโรงงานไม่ครบถ้วน โดยกากอุตสาหกรรมไม่อันตรายแจ้งเพียง 12 ล้านตัน ส่วนกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายแจ้งเพียง 1 ล้านตัน สะท้อนว่ายังมีการลักลอบทิ้งตามที่ต่างๆ ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ภาคตะวันออก
นายณัฐพล กล่าวต่อไปว่า สัปดาห์หน้า กรอ.จะร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจโรงงานลักลอบทิ้งของเสีย โดยเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายก่อนสัปดาห์หน้า ซึ่งจะดำเนินการกับผู้ลักลอบอย่างเข้มงวด โดยเน้นไปที่กากของเสียอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายก่อน สำหรับกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย เช่น dross หรือตะกรัน ที่เกิดจากการหลอมอะลูมิเนียม พบบางส่วนลักลอบทิ้ง ต.บ้านพระ สำหรับโรงงานหลอมอะลูมิเนียม พบมากที่ถนนเอกชัย จ.สมุทรปราการ มากถึง 64 โรงงาน
นอกจากนี้ กรอ. ยังส่งเสริมให้โรงงานนำกากของเสียอุตสาหกรรมกลับมาใช้ใหม่ผ่านโครงการส่งเสริมการใช้ประโยชน์กากของเสีย ปีงบประมาณ 2556 ซึ่งดำเนินการมาแล้ว 3 ปี โครงการนี้ช่วยลดการทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมได้อีกทางหนึ่ง โดยนำระบบ 3Rs เข้ามาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลดการเกิดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของเสียมุ่งสู่การใช้ประโยชน์ของเสียได้ทั้งหมด รวมทั้งร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ศึกษาตั้งเตาเผากากของเสียอันตรายเพิ่มอีก 4 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับกากอุตสาหกรรมอันตรายวันละ 100 ตันต่อโรง จากปัจจุบันมีเพียง 1 เตา ของบริษัทอัคคีปราการเท่านั้น โดยได้รับงบประมาณ 10 ล้านบาท
นายณัฐพล กล่าวต่อไปว่า กรอ. ยังร่วมกับ กนอ. ส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ก้าวขึ้นสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งในปีงบประมาณ 2557 ได้รับงบประมาณรวม 85.5 ล้านบาท โดยมีพื้นที่เป้าหมายคือ สมุทรสาคร สมุทรปราการ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต ฉะเชิงเทรา และ จ.ปราจีนบุรี
อย่างไรก็ตาม มีการส่งใบกำกับการขนย้ายกากของเสียออกจากโรงงานมายังกรมโรงงานไม่ครบถ้วน โดยกากอุตสาหกรรมไม่อันตรายแจ้งเพียง 12 ล้านตัน ส่วนกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายแจ้งเพียง 1 ล้านตัน สะท้อนว่ายังมีการลักลอบทิ้งตามที่ต่างๆ ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ภาคตะวันออก
นายณัฐพล กล่าวต่อไปว่า สัปดาห์หน้า กรอ.จะร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจโรงงานลักลอบทิ้งของเสีย โดยเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายก่อนสัปดาห์หน้า ซึ่งจะดำเนินการกับผู้ลักลอบอย่างเข้มงวด โดยเน้นไปที่กากของเสียอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายก่อน สำหรับกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย เช่น dross หรือตะกรัน ที่เกิดจากการหลอมอะลูมิเนียม พบบางส่วนลักลอบทิ้ง ต.บ้านพระ สำหรับโรงงานหลอมอะลูมิเนียม พบมากที่ถนนเอกชัย จ.สมุทรปราการ มากถึง 64 โรงงาน
นอกจากนี้ กรอ. ยังส่งเสริมให้โรงงานนำกากของเสียอุตสาหกรรมกลับมาใช้ใหม่ผ่านโครงการส่งเสริมการใช้ประโยชน์กากของเสีย ปีงบประมาณ 2556 ซึ่งดำเนินการมาแล้ว 3 ปี โครงการนี้ช่วยลดการทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมได้อีกทางหนึ่ง โดยนำระบบ 3Rs เข้ามาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลดการเกิดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของเสียมุ่งสู่การใช้ประโยชน์ของเสียได้ทั้งหมด รวมทั้งร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ศึกษาตั้งเตาเผากากของเสียอันตรายเพิ่มอีก 4 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับกากอุตสาหกรรมอันตรายวันละ 100 ตันต่อโรง จากปัจจุบันมีเพียง 1 เตา ของบริษัทอัคคีปราการเท่านั้น โดยได้รับงบประมาณ 10 ล้านบาท
นายณัฐพล กล่าวต่อไปว่า กรอ. ยังร่วมกับ กนอ. ส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ก้าวขึ้นสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งในปีงบประมาณ 2557 ได้รับงบประมาณรวม 85.5 ล้านบาท โดยมีพื้นที่เป้าหมายคือ สมุทรสาคร สมุทรปราการ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต ฉะเชิงเทรา และ จ.ปราจีนบุรี
