นายกฯ เรียกคณะทำงาน ศก.ถกมาตรการแก้เงินบาทผันผวน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกรัฐมนตรีและคณะทำงานกำกับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อหารือความชัดเจนของมาตรการแก้ปัญหาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท และแนวทางการช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมส่งออก ภาคอุตสาหกรรมสินค้าเกษตร ภาคอุตสาหกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ แม้ว่าช่วงนี้ค่าเงินบาทจะทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่ควรประมาท ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศที่มีการออกมาตรการผ่อนปรนทางการเงิน(คิวอี) ในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ทั้งในกลุ่มยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น โดยเฉพาะญี่ปุ่น หลังประกาศใช้มาตรการคิวอี คาดว่า จะมีกระแสเงินทุนไหลออกจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งตลาดพันธบัตรไทยถือว่า มีความน่าสนใจมากเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดพันธบัตรอื่นๆ ในภูมิภาค เพราะอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยยังถือว่าแข็งค่าอยู่ในระดับที่นักลงทุนและนักเก็งกำไรจะใช้โอกาสนี้เข้ามาลงทุน ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องมีการหารือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมากขึ้นในทุกภาคส่วนที่มีปัจจัยเสี่ยงจะได้รับผลกระทบอีก
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้เร่งให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย หารือมาตรการที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก และลดการขาดทุนสภาพคล่องของ ธปท. ในการดูดซับเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศในตลาดตราสารหนี้และตลาดทุนไทยลงด้วย คาดว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะรายงานผลการหารือการแก้ปัญหาค่าเงินบาทอย่างไม่เป็นทางการกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาให้นายกรัฐมนตรีรับทราบด้วย