ศาสตราจารย์โดนัลด์ เอ็ม. แม็คเรย์ ทนายความฝ่ายไทย ให้ถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อคณะผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กล่าวว่า คำร้องที่กัมพูชาได้ขอให้ศาลฯ ได้ตีความคำพิพากษาของศาลเมื่อปี 1962 ถือเป็นคำขอที่ไม่ชัดเจน โดยพบว่ามีการซ่อนความต้องการที่ต้องการให้ศาลตีความเรื่องของเขตแดนโดยรอบปราสาทพระวิหารที่เคยได้มีการปฏิเสธการพิจารณาไปแล้ว ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าศาลได้ระบุถึงบทปฏิบัติการให้ถอนกองกำลังทหารนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ข้อพิพาท เพราะประเทศไทยได้ทำโดยทันที หลังจากที่ศาลโลกมีคำพิพากษา แต่ฝ่ายกัมพูชากลับทำเป็นคำขอให้ศาลพิจารณาอีก จึงเป็นสิ่งที่ประหลาด และทำให้เห็นเล่ห์เหลี่ยมที่ได้อำพรางไว้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่มีข้อพิพาทในคำพิพากษาของศาลโลก ปี 1962 เพราะตัวปราสาทพระวิหารนั้นเป็นของกัมพูชา แต่หากศาลยังเปิดทางให้มีการตีความคำพิพากษาเดิม เท่ากับเป็นการบ่อนทำลายคำวินิจฉัยตนเองที่ให้ไว้เมื่อปี 1962 และโดยตามธรรมนูญศาลโลกระบุชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถทำได้ สิ่งที่กัมพูชาได้กระทำคือ ต้องการให้ศาลโลกยืนยันอำนาจพื้นที่อธิปไตยที่ใหญ่กว่าพื้นที่ที่ศาลโลกเคยพิพากษาในปี 1962 คือ พื้นที่ใกล้เคียงปราสาท รวมถึงพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร นั่นหมายถึงต้องการให้ศาลโลกได้ตีความในเรื่องของเขตแดนให้มีความชัดเจน
ทั้งนี้ ยืนยันว่าระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่มีข้อพิพาทในคำพิพากษาของศาลโลก ปี 1962 เพราะตัวปราสาทพระวิหารนั้นเป็นของกัมพูชา แต่หากศาลยังเปิดทางให้มีการตีความคำพิพากษาเดิม เท่ากับเป็นการบ่อนทำลายคำวินิจฉัยตนเองที่ให้ไว้เมื่อปี 1962 และโดยตามธรรมนูญศาลโลกระบุชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถทำได้ สิ่งที่กัมพูชาได้กระทำคือ ต้องการให้ศาลโลกยืนยันอำนาจพื้นที่อธิปไตยที่ใหญ่กว่าพื้นที่ที่ศาลโลกเคยพิพากษาในปี 1962 คือ พื้นที่ใกล้เคียงปราสาท รวมถึงพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร นั่นหมายถึงต้องการให้ศาลโลกได้ตีความในเรื่องของเขตแดนให้มีความชัดเจน