ป.ป.ช.ถกพิจารณารับคดีก่อสร้างโรงพักทดแทนหรือไม่

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ประชุมวันนี้ (12 มี.ค.) เพื่อพิจารณาการรับคดีโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.หรือไม่ หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ส่งสำนวนชี้มูลมาให้ และจะดูถึงความครบถ้วนสมบูรณ์ของสำนวนคดี ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการรับไต่สวนหรือไม่ต่อไป
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า หากมีมติรับไต่สวนต้องพิจารณาถึงวิธีการไต่สวน เบื้องต้นมี 3 แนวทางคือ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งชุด ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือมีหัวหน้าชุด หรือ มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการไต่สวน
ส่วนการเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถ้อยคำ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ถูกชี้มูลเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างมาชี้แจงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการไต่สวน
เมื่อวานนี้(11 มี.ค.) พนักงานสอบสวนดีเอสไอ คดีฉ้อโกงและปัญหา โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน พิจารณาเรื่องที่ผู้บริหาร บริษัทพีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น ขอถอนอายัดเงินฝากในธนาคารออมสินจำนวน 450 ล้านบาท ที่ประชุมมีมติไม่เพิกถอนอายัดเงินจำนวนดังกล่าว เพราะเป็นเงินของกลางที่ต้องเก็บเป็นพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดแทนหรือไม่