นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานกรรมการ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ที่ถูกพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงผู้รับเหมาช่วง ตามมาตรา 341 ประมวลกฎหมายอาญา และข้อกล่าวหาโดยทุจริตร่วมกันหลอกลวงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ด้วยการเสนอราคาต่ำมากกว่าปกติ จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญา ตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เดินทางขอเข้าพบ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษเฉพาะด้าน (ระดับ 9) ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีฉ้อโกง และฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 หลัง ของ สตช.มูลค่า 5,848 ล้านบาท โดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า เพื่อขอคืนเงินฝากในธนาคารออมสิน สาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ จำนวน 450 ล้านบาท ที่ถูกพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอายัดไว้ เป็นของกลางในคดี หลังดีเอสไอสอบสวนพบเป็นเงินล่วงหน้าที่บริษัทพีซีซีฯ เบิกจาก สตช.
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวหลังเปิดโอกาสให้ประธานกรรมการบริษัทพีซีซีฯ เข้าพบว่า ตนได้อธิบายให้ นายพิบูลย์ ทราบถึงเหตุผลในการอายัดเงินล่วงหน้า 450 ล้านบาท เพราะเป็นเงินของกลางในคดี เมื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้กล่าวหานายพิบูลย์ ว่ากระทำควาผผิดจึงต้องอายัดเงินดังกล่าวไว้ เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเท โดยในชั้นนี้ยังไม่ได้ยึดเงินเป็นของแผ่นดินแต่อายัดไว้ตรวจสอบ อีกทั้ง พ.ต.ท.ถวัลย์ ได้ทำเรื่องเสนอตนรับทราบ และอนุมัติในการอายัดเงินล่วงหน้า 450 ล้านบาทไว้ จึงเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยถูกต้อง เพราะดีเอสไอได้ปฎิบัติเช่นนี้ทุกคดี
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวหลังเปิดโอกาสให้ประธานกรรมการบริษัทพีซีซีฯ เข้าพบว่า ตนได้อธิบายให้ นายพิบูลย์ ทราบถึงเหตุผลในการอายัดเงินล่วงหน้า 450 ล้านบาท เพราะเป็นเงินของกลางในคดี เมื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้กล่าวหานายพิบูลย์ ว่ากระทำควาผผิดจึงต้องอายัดเงินดังกล่าวไว้ เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเท โดยในชั้นนี้ยังไม่ได้ยึดเงินเป็นของแผ่นดินแต่อายัดไว้ตรวจสอบ อีกทั้ง พ.ต.ท.ถวัลย์ ได้ทำเรื่องเสนอตนรับทราบ และอนุมัติในการอายัดเงินล่วงหน้า 450 ล้านบาทไว้ จึงเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยถูกต้อง เพราะดีเอสไอได้ปฎิบัติเช่นนี้ทุกคดี
