สาเหตุความไม่แน่นอนในเรื่องงบประมาณรายจ่าย ทำให้รัฐมนตรีกลาโหม เลียน เพเนตตา ของสหรัฐฯ สั่งชะลอการส่งหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีอีก 1 หมู่ไปประจำการในตะวันออกกลางเมื่อวันพุธ(6ก.พ.)ที่ผ่านมา ส่งผลให้อเมริกามีเรือบรรทุกเครื่องบินเพียงลำเดียวอยู่ในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดดังกล่าว โดยที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเขาเพิ่งออกมาแถลงเตือนว่า การที่รัฐสภาอเมริกันนิ่งเฉยไม่กระตือรือร้นแก้ไขข้อวิตกกังวลในทางการคลัง กำลังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ยังประกาศด้วยว่า จะขอปรับขึ้นเงินเดือนให้เหล่าทหารในกองทัพในช่วงปีงบประมาณ 2014 (ต.ค.2013 - ก.ย.2014) เพียงแค่ 1% ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เคยคาดหมายกันไว้ เรื่องนี้ก็เป็นสัญญาณอีกประการหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านการคลังกำลังส่งผลต่อฝ่ายทหารของสหรัฐฯ
เพเนตตา ผู้กำลังจะอำลาตำแหน่งนายใหญ่เพนตากอนอยู่แล้ว สั่งชะลอการส่งหมู่เรือโจมตีที่ประกอบด้วย เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส แฮร์รี เอส. ทรูแมน และเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส เก็ตตีสเบิร์ก ไปประจำการในตะวันออกกลาง จากที่เดิมมีกำหนดออกเดินทางจากฐานทัพเรือในมลรัฐเวอร์จิเนียปลายสัปดาห์นี้เพื่อมุ่งสู่ภูมิภาคดังกล่าว
จอร์จ ลิตเติล โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงเมื่อวันพุธ (6) ว่า ความไม่แน่นอนด้านงบประมาณ ทำให้กองทัพเรือส่งคำร้องขอชะลอการเดินทาง ซึ่งเพเนตตาอนุมัติแล้ว และด้วยการตัดสินใจอย่างรอบคอบนี้ กองทัพเรือยังคงสามารถส่งเรือรบทั้งสองลำไปประจำการณ์ในภูมิภาคดังกล่าวได้ในระยะเวลาอันสั้น ในกรณีที่ต้องรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
แต่การตัดสินใจเช่นนี้ ก็ส่งผลให้สหรัฐฯ เหลือเรือบรรทุกเครื่องบินในอ่าวเปอร์เซียอันตึงเครียดเพียงลำเดียว ซึ่งก็คือ ยูเอสเอส จอห์น ซี สเตนนิส โดยที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง เพเนตตาได้กล่าวเตือนระหว่างแสดงปาฐกถาต่อนักศึกษามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ในกรุงวอชิงตัน ว่า การที่รัฐสภาไม่สามารถตกลงกับรัฐบาลเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องงบประมาณ ทำให้กระทรวงกลาโหมใกล้ที่จะต้องทำการตัดค่าใช้จ่ายให้ได้ 46,000 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 7 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป
นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ยังประกาศด้วยว่า จะขอปรับขึ้นเงินเดือนให้เหล่าทหารในกองทัพในช่วงปีงบประมาณ 2014 (ต.ค.2013 - ก.ย.2014) เพียงแค่ 1% ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เคยคาดหมายกันไว้ เรื่องนี้ก็เป็นสัญญาณอีกประการหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านการคลังกำลังส่งผลต่อฝ่ายทหารของสหรัฐฯ
เพเนตตา ผู้กำลังจะอำลาตำแหน่งนายใหญ่เพนตากอนอยู่แล้ว สั่งชะลอการส่งหมู่เรือโจมตีที่ประกอบด้วย เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส แฮร์รี เอส. ทรูแมน และเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส เก็ตตีสเบิร์ก ไปประจำการในตะวันออกกลาง จากที่เดิมมีกำหนดออกเดินทางจากฐานทัพเรือในมลรัฐเวอร์จิเนียปลายสัปดาห์นี้เพื่อมุ่งสู่ภูมิภาคดังกล่าว
จอร์จ ลิตเติล โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงเมื่อวันพุธ (6) ว่า ความไม่แน่นอนด้านงบประมาณ ทำให้กองทัพเรือส่งคำร้องขอชะลอการเดินทาง ซึ่งเพเนตตาอนุมัติแล้ว และด้วยการตัดสินใจอย่างรอบคอบนี้ กองทัพเรือยังคงสามารถส่งเรือรบทั้งสองลำไปประจำการณ์ในภูมิภาคดังกล่าวได้ในระยะเวลาอันสั้น ในกรณีที่ต้องรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
แต่การตัดสินใจเช่นนี้ ก็ส่งผลให้สหรัฐฯ เหลือเรือบรรทุกเครื่องบินในอ่าวเปอร์เซียอันตึงเครียดเพียงลำเดียว ซึ่งก็คือ ยูเอสเอส จอห์น ซี สเตนนิส โดยที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง เพเนตตาได้กล่าวเตือนระหว่างแสดงปาฐกถาต่อนักศึกษามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ในกรุงวอชิงตัน ว่า การที่รัฐสภาไม่สามารถตกลงกับรัฐบาลเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องงบประมาณ ทำให้กระทรวงกลาโหมใกล้ที่จะต้องทำการตัดค่าใช้จ่ายให้ได้ 46,000 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 7 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป