เอเอฟพี - กองทัพสหรัฐฯ ทิ้งเรือบรรทุกเครื่องบินไว้ปฏิบัติภารกิจในอ่าวเปอร์เซียเพียง 1 ลำ เพื่อขานรับมาตรการตัดลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่จะเริ่มมีผลในเดือนหน้า เจ้าหน้าที่เพนตากอนแถลง วานนี้ (6)
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯ จะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำประจำการอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย แต่ปัญหาความไม่แน่นอนเรื่องงบประมาณส่งผลให้เพนตากอนตัดสินใจลดจำนวนเรือให้เหลือเพียงลำเดียว
เรือยูเอสเอส แฮร์รี เอส. ทรูแมน มีกำหนดเดินทางจากท่าเรือเมืองนอร์ฟอล์ก มลรัฐเวอร์จิเนีย ไปยังอ่าวเปอร์เซียในวันพรุ่งนี้ (8) แต่รัฐมนตรีกลาโหม เลียน เพเนตตา ก็ยกเลิกแผนดังกล่าวหลังจากที่ได้หารือกับผู้บัญชาการทหารเรือแล้ว
จอร์จ ลิตเติล โฆษกเพนตากอน แถลงว่า เพเนตตามีคำสั่งเลื่อนกำหนดส่งเรือ ทรูแมน และเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส เก็ตตีสเบิร์ก ไปยังอ่าวเปอร์เซีย
“เนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่องงบประมาณ กองทัพเรือจึงได้ร้องขอไปยังท่านรัฐมนตรี ซึ่งท่านก็เห็นชอบด้วย” ลิตเติลเผย พร้อมชี้ว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบ และกองทัพเรือก็ยังสามารถส่งเรือทั้ง 2 ลำออกปฏิบัติภารกิจได้ทันทีเมื่อมีคำสั่งลงมาใหม่
ลิตเติลยืนยันด้วยว่า กองทัพสหรัฐฯ “ยังพร้อมที่จะตอบสนองต่อเหตุบังเอิญ หรือภัยคุกคามใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง”
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐฯ มีเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอห์น สเต็นนิส เพียงลำเดียวในน่านน้ำอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งกำลังจะถูกแทนที่ด้วยเรือยูเอสเอส ดไวท์ ไอเซ็นฮาวเวอร์ ภายในต้นเดือนมีนาคมนี้
เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯแต่ละลำจะมีลูกเรือราว 5,000 นาย ซึ่งการระงับส่งเรือ ยูเอสเอส แฮร์รี เอส. ทรูแมน ไปยังอ่าวเปอร์เซียในครั้งนี้จะช่วยให้เพนตากอนประหยัดงบไปได้หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบัน
เพเนตตาเคยเตือนไว้แล้วว่า หากสภาคองเกรสไม่อาจบรรลุแผนลดงบประมาณรายจ่ายภายในวันที่ 1 มีนาคมนี้ จนต้องมีการตัดงบประมาณลงทั้งระบบโดยอัตโนมัติ จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อความพร้อมของกองทัพ
เพนตากอนเองจะถูกหั่นงบไปราวๆ 50,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณปัจจุบัน หากมาตรการตัดลดรายจ่ายอัตโนมัติมีผลบังคับใช้จริง
