นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันที่ 2.75% ถือว่าเป็นอัตราที่สนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจได้ดี เห็นได้จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ผ่านมาได้มีการปรับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง จึงไม่จำเป็นต้องมีการลดดอกเบี้ยนโยบาย ประกอบกับสถานการณ์เสรษฐกิจโลกได้คลี่คลายลง
ขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าดอกเบี้ยไทยสูงกว่าสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ทำให้เกิดภาวะเงินไหลเข้าและอาจสร้างภาวะฟองสบู่ได้ ซึ่งมองว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยขึ้นกับเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีลักษณะสำคัญซึ่งแตกต่างไปจากสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ดังนั้น มองว่าดอกเบี้ยไทยสูงเมื่อเทียบดอกเบี้ยต่างประเทศ อาจเกิดแรงจูงใจให้มีเงินไหลเข้าประเทศนั้น มองว่าปัจจัยที่จูงใจให้มีเงินไหลเข้าประเทศจะมาจากศักยภาพของเศรษฐกิจประเทศนั้น ที่มีโอกาสในการเติบโต รวมถึงนักลงทุนจะพิจารณาพิจารณาในเรื่องความมั่นคง เสถียรภาพและความเสี่ยง โดยไม่ได้มองเรื่องดอกเบี้ยเป็นปัจจัยหลัก
ทั้งนี้ กนง.จะดูข้อมูลที่อัพเดทซึ่งจะมีการประชุมทุก 16 สัปดาห์ หากข้อมูลหลังเดือนพฤศจิกายน ชี้ไปทางอื่นก็อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่แตกต่างก็เป็นไปได้
ตั้งแต่ต้นปี มี net inflow เข้ามาราว 2 พันล้านเหรียญขณะนี้เริ่มชะลอลง โดยรวมมีทั้งเงินไหลเข้าและไหลออกทั้งในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจยังติดตามสถานการณ์เงินไหลเข้าออกต่อไป ทั้งนี้มองว่าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่กังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินบาท ธปท.มีหน้าที่ในการติดตามดูแล หากพบกลไกตลาดบิดเบือน หรือพบธุรกรรมที่ทำให้ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนบิดเบือน ธปท.พร้อมใช้กฎกติกาหรือเครื่องมือที่มีอยู่เข้าทำงานเพื่อไม่ให้กลไกตลาดบิดเบือน แต่ยืนยันว่า ธปท.ไม่ใช่ตัวเล่นหลักในอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผู้เล่นหลัก คือ inflow และ outflow โดย ธปท.จะติดตามเพื่อให้เกิดความสมดุล ไม่ทำให้ตลาดเกิดความเปราะบาง
ขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าดอกเบี้ยไทยสูงกว่าสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ทำให้เกิดภาวะเงินไหลเข้าและอาจสร้างภาวะฟองสบู่ได้ ซึ่งมองว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยขึ้นกับเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีลักษณะสำคัญซึ่งแตกต่างไปจากสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ดังนั้น มองว่าดอกเบี้ยไทยสูงเมื่อเทียบดอกเบี้ยต่างประเทศ อาจเกิดแรงจูงใจให้มีเงินไหลเข้าประเทศนั้น มองว่าปัจจัยที่จูงใจให้มีเงินไหลเข้าประเทศจะมาจากศักยภาพของเศรษฐกิจประเทศนั้น ที่มีโอกาสในการเติบโต รวมถึงนักลงทุนจะพิจารณาพิจารณาในเรื่องความมั่นคง เสถียรภาพและความเสี่ยง โดยไม่ได้มองเรื่องดอกเบี้ยเป็นปัจจัยหลัก
ทั้งนี้ กนง.จะดูข้อมูลที่อัพเดทซึ่งจะมีการประชุมทุก 16 สัปดาห์ หากข้อมูลหลังเดือนพฤศจิกายน ชี้ไปทางอื่นก็อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่แตกต่างก็เป็นไปได้
ตั้งแต่ต้นปี มี net inflow เข้ามาราว 2 พันล้านเหรียญขณะนี้เริ่มชะลอลง โดยรวมมีทั้งเงินไหลเข้าและไหลออกทั้งในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจยังติดตามสถานการณ์เงินไหลเข้าออกต่อไป ทั้งนี้มองว่าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่กังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินบาท ธปท.มีหน้าที่ในการติดตามดูแล หากพบกลไกตลาดบิดเบือน หรือพบธุรกรรมที่ทำให้ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนบิดเบือน ธปท.พร้อมใช้กฎกติกาหรือเครื่องมือที่มีอยู่เข้าทำงานเพื่อไม่ให้กลไกตลาดบิดเบือน แต่ยืนยันว่า ธปท.ไม่ใช่ตัวเล่นหลักในอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผู้เล่นหลัก คือ inflow และ outflow โดย ธปท.จะติดตามเพื่อให้เกิดความสมดุล ไม่ทำให้ตลาดเกิดความเปราะบาง