พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี กทม.ต่อสัญญาสัมปทานใน BTS กล่าวถึงความคืบหน้าการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนายประพันธุ์พงศ์ เวชชาชีวะ ประธานบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา 2 รายจาก 11 ราย ที่ติดต่อกับ DSI โดยืนยันว่า จะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ในวันที่ 9 มกราคมนี้แน่นอน ส่วนคนอื่นๆ นั้น จะทราบผลในช่วงเที่ยงวันนี้
ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคนอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ทำหนังสือแจ้งมายัง DSI โดยระบุว่า คดีเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กรณีที่ DSI มีหนังสือแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ จึงขอให้ DSI พิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของหนังสือ รวมถึงให้ยกเลิกข้อกล่าวหา ซึ่งคงทำเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเป็นมติคดีพิเศษ และพิจารณาตามพยานหลักฐานไปแล้ว ส่วนการประสานขอกำลังตำรวจหรือไม่นั้น จะพูดคุยกับทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อีกครั้งว่า จะมีมวลชนมาให้กำลังใจหรือไม่ หากมีมาเป็นจำนวนมากจะประสานกับตำรวจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อมาดูแลความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคดีดังกล่าวกฎหมายจะกำหนดโทษไว้น้อย คือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท แต่ในคดีแพ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการทำสัญญาสัมปทานที่ระยะเวลานานถึง 30 ปี ซึ่งคดีแพ่งนั้นจะสามารถฟ้องร้องกันได้ ก็ต่อเมื่อศาลบอกว่า สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะจริงตามคำฟ้องของ DSI เสียก่อน
ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคนอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ทำหนังสือแจ้งมายัง DSI โดยระบุว่า คดีเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กรณีที่ DSI มีหนังสือแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ จึงขอให้ DSI พิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของหนังสือ รวมถึงให้ยกเลิกข้อกล่าวหา ซึ่งคงทำเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเป็นมติคดีพิเศษ และพิจารณาตามพยานหลักฐานไปแล้ว ส่วนการประสานขอกำลังตำรวจหรือไม่นั้น จะพูดคุยกับทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อีกครั้งว่า จะมีมวลชนมาให้กำลังใจหรือไม่ หากมีมาเป็นจำนวนมากจะประสานกับตำรวจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อมาดูแลความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคดีดังกล่าวกฎหมายจะกำหนดโทษไว้น้อย คือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท แต่ในคดีแพ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการทำสัญญาสัมปทานที่ระยะเวลานานถึง 30 ปี ซึ่งคดีแพ่งนั้นจะสามารถฟ้องร้องกันได้ ก็ต่อเมื่อศาลบอกว่า สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะจริงตามคำฟ้องของ DSI เสียก่อน
