น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายแสดงความห่วงใยว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบหากมีการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกกับสหรัฐอเมริกา หรือ "ทีพีพี" ว่า เรื่องนี้เป็นการขอความเห็นจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเข้าไปเจรจา อย่างไรก็ตามในกลุ่มประเทศอาเซียนวันนี้ได้เข้าไปเจรจากันแล้ว ซึ่งการเข้าไปเพื่อเจรจาก็เพื่อให้ทราบว่ามีปัญหา ข้อดี ข้อเสียอย่างไร ยืนยันว่ายังไมได้สรุปใดๆทั้งสิ้น เพราะถ้าจะสรุปต้องผ่านขั้นตอน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงการแสดงเจตนารมณ์แต่ยังไม่ได้ทำอะไร เป็นเพียงเพื่อให้เข้าใจในขั้นตอนเท่านั้น ดังนั้นตนต้องขอสื่อสารเพื่อให้เกิดความเช้าใจที่ตรงกัน และได้ย้ำกับกระทรวงพาณิชย์เสมอว่าการเจรจาใดๆจะต้องนึกถึงผลประโยชน์ของประเทศเสมอ ขณะเดียวกันต้องดูความพร้อมควบคู่ไปกับด้านอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ มองว่ากับทุกประเทศเราต้องมีการค้าเกิดขึ้น จึงต้องดูรายละเอียดเพราะความจริงข้อดีก็มี และบางประเทศเขาได้เข้าไปแล้ว แต่ก็ยังมีข้อห่วงใยบางส่วนที่เราต้องพยายามไปศึกษาไปพร้อมๆ กัน แล้วค่อยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาว่าเป็นอย่างไร แล้วจึงมาตัดสินใจ แต่ถ้าเราไม่เข้าไปเจรจาก็จะไม่ทราบว่าเนื้อหามันเป็นอย่างไร ขอให้สบายใจว่ายังไม่มีการตอบตกลงใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการแค่การแสดงเจตนารมณ์เพียงย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาในการศึกษา ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จะหารือและฟังผลกระทบจากทุกส่วน ยืนยันว่าต้องขอความเห็นและทำความเข้าใจควบคู่ไปด้วย ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง เพราะต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนที่จะต้องผ่านที่ประชุมครม.ก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาต่อไป ดังนั้นในการพบและหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 18 พ.ย.นี้ จึงยังไม่มีการนำเรื่องนี้พูดคุยกันแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความพร้อมรับนายบารัก โอบามา ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ประสานงานเรียบร้อยแล้วว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงการแสดงเจตนารมณ์แต่ยังไม่ได้ทำอะไร เป็นเพียงเพื่อให้เข้าใจในขั้นตอนเท่านั้น ดังนั้นตนต้องขอสื่อสารเพื่อให้เกิดความเช้าใจที่ตรงกัน และได้ย้ำกับกระทรวงพาณิชย์เสมอว่าการเจรจาใดๆจะต้องนึกถึงผลประโยชน์ของประเทศเสมอ ขณะเดียวกันต้องดูความพร้อมควบคู่ไปกับด้านอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ มองว่ากับทุกประเทศเราต้องมีการค้าเกิดขึ้น จึงต้องดูรายละเอียดเพราะความจริงข้อดีก็มี และบางประเทศเขาได้เข้าไปแล้ว แต่ก็ยังมีข้อห่วงใยบางส่วนที่เราต้องพยายามไปศึกษาไปพร้อมๆ กัน แล้วค่อยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาว่าเป็นอย่างไร แล้วจึงมาตัดสินใจ แต่ถ้าเราไม่เข้าไปเจรจาก็จะไม่ทราบว่าเนื้อหามันเป็นอย่างไร ขอให้สบายใจว่ายังไม่มีการตอบตกลงใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการแค่การแสดงเจตนารมณ์เพียงย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาในการศึกษา ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จะหารือและฟังผลกระทบจากทุกส่วน ยืนยันว่าต้องขอความเห็นและทำความเข้าใจควบคู่ไปด้วย ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง เพราะต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนที่จะต้องผ่านที่ประชุมครม.ก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาต่อไป ดังนั้นในการพบและหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 18 พ.ย.นี้ จึงยังไม่มีการนำเรื่องนี้พูดคุยกันแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความพร้อมรับนายบารัก โอบามา ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ประสานงานเรียบร้อยแล้วว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา